วิธีที่ TopLine Film ปรับปรุงการทำงานวิดีโอร่วมกันให้ดียิ่งขึ้น
ที่ TopLine Film การใช้ฮาร์ดไดรฟ์แบบจับต้องได้เพื่อจัดเก็บไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่กลายเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์จะช่วยให้บริษัทผลิตวิดีโอที่กำลังเติบโตแห่งนี้ทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานหรือฟรีแลนซ์ที่ทำงานในสำนักงานหรือจากทางไกลได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
"ความคุ้มค่าของ Dropbox นั้นเหนือกว่าเซิร์ฟเวอร์แบบจับต้องได้มาก เมื่อพิจารณาจากการใช้ข้อมูลจำนวนมากแล้ว ถือว่าเราได้รับความคุ้มค่าอย่างมาก"
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้
Dropbox
อุตสาหกรรม
การบริการระดับมืออาชีพ
ขนาด
2-249
ตำแหน่งที่ตั้ง
ลอนดอน, สหราชอาณาจักร
ความท้าทาย: พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบจับต้องได้ที่ไม่สะดวกสำหรับไฟล์ขนาดใหญ่
TopLine Film เป็นบริษัทผลิตวิดีโอที่แยกตัวออกมาในปี 2019 โดยเดิมทีเป็นแผนกวิดีโอที่แยกออกมาจากบริษัท TopLine Comms ในปี 2021 ทั้งสองแบรนด์มีพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 25 คน และถูกซื้อไปโดย Definition Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์แบรนด์ ประสบการณ์ และการสื่อสาร
TopLine Film ใช้ Dropbox มาตั้งแต่แรกเริ่ม Jamie Field กรรมการผู้จัดการของ TopLine Film กล่าวว่า "ในฐานะเอเจนซี่ที่มีพนักงานสามคน เรามีหลายอย่างที่ต้องจัดการ Dropbox ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย"
เมื่อมีการเปิดตัวแผนกวิดีโอในปี 2012 ทำให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลของบริษัทมีความซับซ้อนมากขึ้น ในตอนนั้น บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์มีขนาดค่อนข้างจำกัด ไฟล์วิดีโอมีขนาดใหญ่ และ TopLine ก็ใช้ฮาร์ดไดรฟ์ในการสำรองข้อมูลทุกอย่าง ฮาร์ดไดรฟ์ใช้ได้ผลเมื่อพวกเขาจัดการกับข้อมูลขนาดไม่กี่เทราไบต์ แต่กระบวนการนี้ก็เริ่มไม่สะดวกเมื่อข้อมูลเพิ่มมากขึ้น TopLine ติดต่อหา Dropbox เพื่อขอรับสิทธิ์การใช้งานระดับองค์กร และ Dropbox ก็รับประกันว่าพวกเขาจะไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่อีกต่อไป
"ว่ากันง่ายๆ คือใช้งานได้ดีเลยครับ เป็นโซลูชันที่ทำงานได้ดีมากๆ ทั้งใน PC และ Mac และเกือบทุกคนที่เราว่าจ้างมี Dropbox ส่วนตัวและคุ้นเคยกับวิธีใช้งานอยู่แล้ว ดังนั้นกระบวนการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มงานจึงเป็นอะไรที่ง่ายมาก"
ทางออก: เครื่องมือที่ใช้งานง่ายที่สุดมักจะดีที่สุด
หลังจากมีการซื้อกิจการ TopLine Film สังเกตเห็นว่าแบรนด์อื่นๆ ของ Definition Group นั้นใช้โซลูชันอย่าง SharePoint และ WeTransfer กัน ทีมของ Field ได้ลองใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้ แต่ก็กลับไปใช้ Dropbox เสมอ พวกเขาชอบความเรียบง่ายของอินเตอร์เฟส เช่นเดียวกับฟังก์ชันการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทีมงาน TopLine มีความกระตือรือร้นมากจนโน้มน้าวให้แบรนด์อื่นๆ ของ Definition Group ย้ายมาใช้ Dropbox ด้วยความช่วยเหลือจากบริษัท Kaizen IT พวกเขาร่วมกันสร้างประสบการณ์แบบบูรณาการที่ช่วยให้แผนกอื่นๆ ของ Definition Group สามารถใช้ Dropbox ในการเก็บถาวรและเป็นเซิร์ฟเวอร์ไฟล์ได้
ไฟล์โปรเจ็กต์จำนวนมากของ TopLine นั้นมาจากซอฟต์แวร์ Adobe เช่น Premiere Pro, After Effects และ Photoshop ไฟล์เหล่านี้มีขนาดค่อนข้างเล็กและคงอยู่ในไดเร็กทอรี่ของ Dropbox ทุกครั้งที่มีคนคลิก "บันทึก" หรือไฟล์มีการบันทึกอัตโนมัติ ไฟล์นั้นจะถูกอัปโหลดไปยังระบบคลาวด์ทันที ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์สื่อแบบเรียลไทม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Dropbox ทำให้ขั้นตอนการทำงานระหว่าง TopLine และฟรีแลนซ์ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน ช่างภาพฟรีแลนซ์เกือบทุกคนใช้ Dropbox และตอนนี้เมื่อพวกเขาส่งวิดีโอผ่านลิงก์ Dropbox วิดีโอนั้นจะปรากฏบนเซิร์ฟเวอร์สื่อของ TopLine ทันที นอกจากนี้ TopLine ยังทำงานร่วมกับ Vimeo อยู่อีกมากมาย และการผสานการทำงานของ Dropbox กับ Vimeo ก็ช่วยให้ TopLine สามารถเพิ่มวิดีโอจากเซิร์ฟเวอร์สื่อลงใน Vimeo ได้ทันทีโดยไม่ต้องอัปโหลดแยกต่างหากอีกด้วย Field กล่าวว่า "ผมชอบตรงที่ว่า ถ้าหากมีไฟล์วิดีโอ แม้จะเป็นรูปแบบวิดีโอที่ค่อนข้างเฉพาะทางก็ตาม คุณก็ยังสามารถเล่นวิดีโอนั้นผ่าน Dropbox ได้ ซึ่งผมคิดว่าค่อนข้างโดดเด่นเลยทีเดียว"
Dropbox ยังช่วย TopLine เสริมการรักษาความปลอดภัยเมื่อพวกเขามีสมาชิกเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย คุณสมบัติการอนุญาตสิทธิ์ของแพลตฟอร์มนี้ทำให้ Field ควบคุมได้ว่าใครสามารถดูและเข้าถึงไฟล์ใดไฟล์หนึ่งได้ แม้ว่าคุณสมบัตินี้จะทำงานอยู่เบื้องหลัง แต่เขายังคงมั่นใจว่าสินทรัพย์ของพวกเขาจะได้รับการปกป้อง
ผลลัพธ์: วิธีที่ง่ายและคุ้มค่าที่สุดในการแบ่งปันไฟล์สื่อขนาดใหญ่
Dropbox ช่วยให้ Field และทีมของเขาสามารถแบ่งปันและรับไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้นมาก TopLine มีพนักงานกว่าร้อยคนกระจายอยู่ในสำนักงานสามแห่งในสหราชอาณาจักร เนื่องจากมีทีมฟรีแลนซ์ที่จ้างมาเพิ่มและพนักงานจำนวนมากที่ทำงานจากที่บ้าน ทุกคนจึงต้องมีบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ที่ใช้งานได้ดีและมีความยั่งยืน หลายบริษัทยังคงใช้เซิร์ฟเวอร์แบบจับต้องได้อยู่เพราะคิดว่าการย้ายไปยังระบบคลาวด์จะเป็นเรื่องซับซ้อน แต่ Field พบว่า Dropbox คุ้มค่ากว่าการที่ต้องคอยจัดการกับเซิร์ฟเวอร์แบบจับต้องได้และสัญญาการใช้บริการต่างๆ อีกทั้งเขายังได้รับการสนับสนุนจากทีมชั้นยอดของ Dropbox โดยตลอดอีกด้วย
ลูกค้าเคยประหลาดใจที่บริษัทผลิตวิดีโอระดับมืออาชีพใช้ Dropbox แต่แพลตฟอร์มดังกล่าวได้กลายมาเป็นมาตรฐานสำหรับพื้นที่จัดเก็บไฟล์หลัก ยิ่งมีคนนำไปใช้มากเท่าไร ทุกคนก็ยิ่งมองเห็นประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
“จากบริษัทที่มีพนักงานเพียงสามคน จนถึงตอนนี้มีพนักงานเป็นร้อยคนและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ Dropbox ทำทุกอย่างที่เราต้องการ”
Jamie Fieldกรรมการผู้จัดการ