Kevin Raub ไม่ชอบขึ้นเครื่องบินเลย

นี่ไม่ใช่คุณสมบัติที่เหมาะสม เนื่องจาก Raub เป็นหนึ่งในนักเขียนภาคสนามของแบรนด์ท่องเที่ยวอย่าง Lonely Planet แต่ความกลัวท้องฟ้าก็ไม่ได้หยุดยั้งเขาไม่ให้ไปเยือน 90 ประเทศตลอดทั้งชีวิตการทำงาน “ส่วนที่ผมชอบที่สุดของการเดินทางคือการโยนกระเป๋าลงและก้าวสู่โลกใบใหม่เป็นครั้งแรก โดยที่ทุกอย่างเป็นสิ่งแปลกใหม่ไปหมดสำหรับผม” เขากล่าว “เวลาขึ้นเครื่องบิน ผมชอบตอนลงจอด”

Lonely Planet รู้สึกขอบคุณผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวอย่าง Raub Lonely Planet ต้องใช้นักเขียนหลายร้อยคนซึ่งทำงานร่วมกับทีมเนื้อหาที่ประจำอยู่ตามสำนักงานต่างๆ ทั่วโลกของบริษัท เพื่อให้ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยว 350,000 แห่ง เมื่อพวกเขาทำงานร่วมกัน ก็เกิดเป็นสิ่งที่อาจเป็นทีมการทำงานร่วมกันทางไกลที่ดีที่สุด

เราไปพบ Raub ในทริปการวิจัยของเขาในลิสบอน และไปพบทีมในแนชวิลล์เพื่อดูว่าพวกเขาใช้ Dropbox กันอย่างไร สิ่งที่เราได้เรียนรู้มีดังนี้

แปลงแฟรนไชส์ที่มีเอกลักษณ์เป็นดิจิทัลด้วย Dropbox Business

Lonely Planet มีทั้งแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัย Lonely Planet ก่อตั้งขึ้นในปี 1973 โดยมีหนังสือคู่มืออันเป็นเครื่องหมายการค้าของทางบริษัท และในปี 2018 ก็มีชื่ออยู่ในรายชื่อ “บริษัทที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของโลก” ของ Fast Company ในขณะที่หนังสือของแบรนด์ยังคงได้รับความนิยม ก็มีผู้อ่านเนื้อหาบนแพลตฟอร์มดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นด้วย

เมื่อจำนวนผู้อ่านเพิ่มขึ้น Lonely Planet ก็พัฒนาตามไปด้วย Lonely Planet ได้นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

ทำให้เรื่องราวเป็นจริงด้วย Dropbox Paper

Lonely Planet เป็นลูกค้า Dropbox Business มาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว และยังได้เริ่มใช้ Dropbox Paper แล้วด้วย Bailey Freeman ซึ่งเป็นบรรณาธิการปลายทางจะรวบรวมงานวิจัยภาคสนาม รูปภาพ และฉบับร่างทั้งหมด และเตรียมเอกสารเหล่านั้นให้พร้อมสำหรับการพิมพ์บนแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Lonely Planet Paper ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับงานของ Freeman ในการสร้างเนื้อหาและการประสานงานโครงการ

Paper ช่วยให้ทีมมุ่งเน้นไปที่การแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษแก่ผู้อ่าน

Freeman กล่าวว่า “ทีมเราทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์แม้ว่าจะอยู่ต่างที่กัน นั่นแหละคือวิธีที่เราสร้างบทความที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนไปเยี่ยมชมสถานที่ใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”