ข้อตกลงในส่วนนี้จะใช้เฉพาะกับลูกค้าที่ซื้อบริการ Dropbox สำหรับทีมเท่านั้น (รวมถึงการสมัครสมาชิกรับสิทธิ์เข้าถึงฟรี) และไม่สามารถใช้ได้กับบริการ Dropbox ที่ซื้อโดยผู้บริโภคหรือบุคคลทั่วไป หากองค์กรของคุณลงนามในข้อตกลงแบบแยกต่างหากกับ Dropbox ข้อตกลงนั้นจะมีผลบังคับและอาจแตกต่างจากข้อตกลงด้านล่าง โปรดติดต่อผู้ดูแลระบบขององค์กรของคุณเพื่อขอทราบรายละเอียด

คำแปลนี้จัดให้ไว้เพื่อความสะดวกเพียงเท่านั้น หากมีข้อขัดแย้งใดๆ ให้ยึดถือเวอร์ชันภาษาอังกฤษไว้เป็นหลัก

ข้อตกลงบริการ Dropbox

โพสต์เมื่อ: 5 สิงหาคม 2024

มีผลบังคับใช้เมื่อ 5 สิงหาคม 2024

คุณสามารถดูข้อตกลงการบริการฉบับก่อนหน้าได้ที่นี่

ข้อตกลงการให้บริการ Dropbox นี้ ("DSA") เป็นข้อตกลงระหว่างหน่วยงานของ Dropbox ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก 1 ("Dropbox") กับองค์กรที่ยอมรับข้อตกลงเหล่านี้ ("ลูกค้า") Dropbox และลูกค้าจะถูกเรียกว่า "ฝ่าย" และเรียกรวมกันว่า "ทั้งสองฝ่าย" DSA นี้กำกับดูแลการเข้าถึงและการใช้บริการและบริการเบต้าใดๆ DSA นี้ ข้อตกลงเฉพาะบริการใดๆ แบบฟอร์มคำสั่งซื้อที่บังคับใช้แต่ละฉบับ ข้อตกลงการประมวลผลข้อมูล และ (หากมี) ข้อตกลงภาคีธุรกิจ HIPAA จะเรียกรวมกันว่า "ข้อตกลง" หากคุณคลิก "ฉันยอมรับ" ลงนามในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อสำหรับบริการ หรือใช้บริการ จะถือว่าคุณยอมรับข้อตกลงในฐานะลูกค้า

หากคุณยอมรับข้อตกลงนี้สำหรับการใช้บริการโดยองค์กร จะถือว่าคุณยอมรับในนามขององค์กรนั้น คุณต้องมีอำนาจในการยอมรับให้องค์กรนั้นมีผลผูกพันกับข้อตกลงเหล่านี้ หากไม่มีอำนาจ คุณจะต้องไม่ลงทะเบียนใช้บริการ

1.  บริการ
   1. บทบัญญัติ ข้อตกลงนี้กำกับดูแลการเข้าถึงและการใช้บริการและซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องใดๆ ลูกค้าสามารถเข้าถึงและใช้บริการได้ตามข้อตกลง
   2. ข้อตกลงเฉพาะบริการ บริการบางอย่างหรือบริการบางส่วนอาจอยู่ภายใต้ข้อตกลงเพิ่มเติม รวมถึงข้อตกลงและเงื่อนไขของบุคคลที่สาม ซึ่งเฉพาะเจาะจงสำหรับบริการนั้นๆ และระบุไว้ในข้อตกลงเฉพาะบริการ หากคุณเข้าถึงหรือใช้บริการที่ครอบคลุมโดยข้อตกลงเฉพาะบริการใดๆ จะถือว่าคุณยอมรับข้อตกลงเฉพาะบริการที่เกี่ยวข้อง หากมีข้อขัดแย้งระหว่างข้อตกลงเหล่านี้และข้อตกลงเฉพาะบริการ ข้อตกลงเฉพาะบริการจะควบคุมในส่วนที่เกี่ยวกับบริการที่เกี่ยวข้องหรือบางส่วนของบริการที่เกี่ยวข้อง
   3. การแก้ไข Dropbox อาจอัปเดตบริการเป็นครั้งคราว หาก Dropbox เปลี่ยนแปลงบริการในลักษณะที่ลดคุณสมบัติการทำงานลงอย่างมีนัยสำคัญ Dropbox จะแจ้งให้ลูกค้าทราบผ่านทางที่อยู่อีเมลที่เชื่อมโยงกับบัญชี และลูกค้าอาจแจ้งบอกเลิกข้อตกลงนี้ภายในสามสิบวันหลังจากมีการเปลี่ยนแปลง สิทธิ์ในการบอกเลิกข้อตกลงนี้จะไม่มีผลบังคับใช้กับการอัปเดตคุณสมบัติที่ให้ในบริการเบต้าหรือการประเมินผล Dropbox อาจเพิ่มคุณสมบัติเพิ่มเติมเป็นครั้งคราวเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมโดยไม่จำกัดสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น อย่างไรก็ตาม เราอาจถอดคุณสมบัติฟรีเหล่านี้ออกโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
   4. ซอฟต์แวร์
      1. ทั่วไป สำหรับบริการบางอย่าง ลูกค้าและผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่อาจอัปเดตโดยอัตโนมัติได้ Dropbox ให้สิทธิ์การใช้งานแบบจำกัดที่ไม่จำกัดแต่เพียงผู้เดียวแก่ลูกค้าในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลงนี้ เพื่อใช้ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับบริการและตามข้อตกลงนี้เท่านั้น สิทธิ์การใช้งานนี้ไม่สามารถโอนได้ (ตามข้อ 14.8) เพิกถอนไม่ได้ (ยกเว้นตามที่ระบุไว้ในข้อ 9) ไม่สามารถให้สิทธิ์การใช้งานช่วงได้ และจะได้รับการชำระค่าบริการเต็มจำนวนเมื่อลูกค้าชำระค่าบริการ
      2. โอเพนซอร์ส หากมีการเสนอส่วนประกอบใดก็ตามของซอฟต์แวร์ภายใต้สิทธิ์การใช้งานแบบโอเพนซอร์ส Dropbox จะให้สิทธิ์การใช้งานแก่ลูกค้า และจะให้สิทธิ์เพิ่มเติมแก่ลูกค้าตามขอบเขตของบทบัญญัติของสิทธิ์การใช้งานนั้นๆ โดยที่บทบัญญัติเหล่านั้นจะแทนที่ข้อตกลงบางประการของข้อตกลงนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับส่วนประกอบดังกล่าวของซอฟต์แวร์เท่านั้นโดยชัดแจ้ง
   5. แอด-ออน ลูกค้าสามารถซื้อแอด-ออนเพื่อใช้ร่วมกับบริการบางอย่างได้ แต่ไม่สามารถซื้อแอด-ออนเพียงอย่างเดียวได้ และลูกค้าต้องซื้อร่วมกับการสมัครสมาชิกใหม่หรือการสมัครสมาชิกที่มีอยู่สำหรับบริการที่เกี่ยวข้องซึ่งเสนอให้ แอด-ออนอาจอยู่ภายใต้ข้อตกลงเฉพาะบริการเพิ่มเติมหรือข้อจำกัดอื่นๆ ที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ แอด-ออนที่ระบุว่าเสนอให้โดยบุคคลที่สามไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริการและอยู่ภายใต้ส่วนที่ 3.9 ของข้อตกลงนี้ โดยไม่จำกัดสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น
2.  การสมัครสมาชิก
   1. ระยะเวลาบริการ บริการจะจำหน่ายโดยการสมัครสมาชิก เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ Dropbox จะให้บริการแก่ลูกค้าตามระยะเวลาบริการ การเพิ่มปริมาณของบริการที่ซื้อระหว่างระยะเวลาบริการใดๆ จะมีระยะเวลาตามสัดส่วนที่สิ้นสุดในวันสุดท้ายของระยะเวลาบริการที่มีอยู่ เว้นแต่คู่สัญญาจะตกลงเป็นอย่างอื่นเป็นลายลักษณ์อักษร
   2. การต่ออายุอัตโนมัติ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ หลังจากครบระยะเวลาบริการครั้งแรกหรือระยะเวลาการต่ออายุ การสมัครสมาชิกบริการของลูกค้าจะต่ออายุโดยอัตโนมัติสำหรับระยะเวลาการต่ออายุอีกหนึ่งช่วงที่ปริมาณหรือระดับการสมัครสมาชิกปัจจุบันในขณะนั้น เว้นแต่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแจ้งบอกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษร (รวมถึงการยุติบางส่วนเพื่อลดปริมาณ) อย่างน้อยสามสิบวันก่อนที่ระยะเวลาบริการปัจจุบันในขณะนั้นจะหมดอายุ หากลูกค้าซื้อบริการด้วยช่องทางออนไลน์ผ่านกลไกบริการตนเองและให้วิธีการชำระเงินแก่ Dropbox สำหรับการเรียกเก็บค่าบริการแบบประจำ ลูกค้าอาจเลือกที่จะบอกเลิกข้อตกลงนี้ผ่านทางแผงควบคุมของผู้ดูแลระบบก่อนวันที่ระยะเวลาการต่ออายุจะเริ่มต้น
   3. การสมัครสมาชิกเพิ่มเติม บริการอาจถูกกำหนดค่าเพื่อให้ผู้ดูแลระบบหรือผู้ใช้สามารถซื้อการสมัครสมาชิกหรือปริมาณของบริการหรือแอด-ออนเพิ่มเติมได้ ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบในการทำความเข้าใจการตั้งค่าและการควบคุมบริการสำหรับการซื้อบริการเพิ่มเติม Dropbox จะเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าตามสัดส่วนที่เกี่ยวข้องสำหรับบริการเพิ่มเติมหรือแอด-ออนสำหรับระยะเวลาบริการที่เหลืออยู่ปัจจุบันในขณะนั้นตามราคาปัจจุบันในขณะนั้นของลูกค้า เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ
   4. การสมัครสมาชิกตามการใช้งาน หากลูกค้าเลือกที่จะซื้อบริการใดๆ ตามการใช้งาน ลูกค้ารับทราบว่า Dropbox จะเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าตามที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อหรือข้อตกลงเฉพาะบริการตามการใช้งานที่ Dropbox คำนวณ
3.  ข้อผูกพันของลูกค้า
   1. การลงทะเบียน ลูกค้าและผู้ใช้ (ตามคำจำกัดความด้านล่าง) อาจจำเป็นต้องลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้เพื่อสั่งซื้อหรือเพื่อเข้าถึงหรือใช้บริการ ข้อมูลบัญชีต้องถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และครบถ้วน และลูกค้าตกลงที่จะอัปเดตข้อมูลนี้ให้เป็นปัจจุบันเสมอ
   2. การดูแลระบบบริการโดยลูกค้า ลูกค้าอาจระบุผู้ใช้เป็นผู้ดูแลระบบ รวมถึงผ่านผู้ดูแลระบบหลายระดับ ผู้ดูแลระบบอาจสามารถ (ก) เข้าถึง เปิดเผย จำกัดการเข้าถึง หรือลบข้อมูลลูกค้า (ข) ซื้อสิทธิ์การใช้งาน ความจุ หรือปริมาณอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับบริการ และ (ค) ให้สิทธิ์ ติดตามตรวจสอบ จำกัด หรือยุติการเข้าถึงบริการโดยผู้ใช้ได้ ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบในการเก็บรักษารหัสผ่านและบัญชีผู้ดูแลระบบไว้เป็นความลับ และจัดการการเข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบ หน้าที่รับผิดชอบของ Dropbox จะไม่ครอบคลุมไปถึงการจัดการภายในหรือการดูแลระบบบริการสำหรับลูกค้า
   3. การดูแลจัดการโดยบุคคลที่สาม ลูกค้ารับทราบว่าหากลูกค้าซื้อบริการผ่านตัวแทนจำหน่ายและมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของตัวแทนจำหน่ายดังกล่าวเป็นผู้ดูแลระบบบัญชีบริการของลูกค้า ตัวแทนจำหน่ายอาจสามารถควบคุมข้อมูลบัญชี รวมถึงข้อมูลของลูกค้า และเข้าถึงบัญชีบริการของลูกค้าดังที่อธิบายไว้ข้างต้นได้
   4. ผู้ใช้
      1. การให้สิทธิ์ สำหรับบริการที่จำหน่ายตามสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้ ลูกค้าสามารถให้สิทธิ์แก่บัญชีผู้ใช้ได้สูงสุดตามจำนวนสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้ที่ซื้อผ่านแบบฟอร์มคำสั่งซื้ออย่างน้อยหนึ่งรายการ บัญชีผู้ใช้แต่ละบัญชีต้องมีสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้แบบชำระค่าบริการ และไม่สามารถแบ่งปันบัญชีผู้ใช้เดียวกับหลายคนได้ การให้สิทธิ์และลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้สามารถทำได้สำหรับผู้ใช้เพียงรายเดียวเท่านั้น และมีเพียงผู้ใช้เพียงรายเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้บัญชีผู้ใช้ได้ บัญชีผู้ใช้ที่ลูกค้าตั้งค่าระงับชั่วคราวต้องมีสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้แบบชำระค่าบริการ หากลูกค้าลบบัญชีผู้ใช้ สิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้อาจถูกจัดสรรใหม่เพื่อให้สิทธิ์แก่บัญชีผู้ใช้ใหม่
      2. หน้าที่รับผิดชอบ ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบการใช้บริการของผู้ใช้ของตน ลูกค้าจะได้รับและรักษาความยินยอมจากผู้ใช้ ซึ่งจำเป็นเพื่อยอมให้ผู้ดูแลระบบมีส่วนร่วมในการดำเนินการต่างๆ ที่อธิบายไว้ในข้อตกลงนี้และเพื่ออนุญาตให้ Dropbox ให้บริการ
   5. การใช้หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ลูกค้าจะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ของตนใช้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะยุติการใช้หรือการเข้าถึงบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ บริการนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีหากอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา หรือ 16 ปีหากอาศัยอยู่ที่อื่น หากกฎหมายในประเทศที่ผู้ใช้อาศัยอยู่กำหนดว่า ผู้ใช้ต้องมีอายุมากกว่านั้นเพื่อให้ Dropbox สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้ใช้จะต้องมีอายุที่มากกว่านั้น ลูกค้าจะต้องแน่ใจว่าจะไม่อนุญาตให้บุคคลใดก็ตามที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา หรือ 16 ปีหากอาศัยอยู่ที่อื่น ใช้บริการนี้ ลูกค้าจะแจ้งให้ Dropbox ทราบทันที หากมีการใช้หรือการเข้าถึงบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
   6. ข้อจำกัด ลูกค้าจะไม่ (ก) จำหน่าย นำไปจำหน่ายต่อ หรือให้เช่าบริการ ซอฟต์แวร์ หรือสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้ (ข) ใช้บริการหรือซอฟต์แวร์สำหรับกิจกรรมซึ่งการใช้หรือความล้มเหลวของบริการหรือซอฟต์แวร์อาจนำไปสู่ความเสียหายทางกายภาพ การเสียชีวิต หรือการบาดเจ็บของบุคคล (ค) ทำวิศวกรรมย้อนกลับบริการหรือซอฟต์แวร์ หรือพยายามหรือช่วยเหลือผู้อื่นในการดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่กฎหมายจะห้ามข้อจำกัดนี้ (ง) ใช้บริการหรือซอฟต์แวร์ รวมถึงการส่งออกหรือส่งออกต่อข้อมูลลูกค้า ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายควบคุมการส่งออก (จ) ละเมิดหรือหลีกเลี่ยงขีดจำกัดบริการของบริการหรือกำหนดค่าบริการเพื่อหลีกเลี่ยงขีดจำกัดบริการ (ฉ) เข้าถึงบริการเพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่สามารถแข่งขันได้ หรือคัดลอกคุณสมบัติหรืออินเตอร์เฟสผู้ใช้ (ช) ใช้บริการเพื่อการประเมินผล การวัดเปรียบเทียบสมรรถนะ หรือการวิเคราะห์เปรียบเทียบอื่นๆ ที่มีเจตนาเพื่อการเผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Dropbox ก่อน (ซ) ลบหรือปิดบังประกาศเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์หรือประกาศอื่นๆ ที่มีอยู่ในบริการ รวมถึงในรายงานหรือผลลัพธ์ใดๆ ที่ได้รับจากบริการ (ฌ) ใช้หรืออนุญาตให้ใช้บริการเพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมายหรือทำให้เข้าใจผิด หรือ (ญ) สร้างบัญชีบนบริการในฐานะบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ส่วนบุคคล ครอบครัว หรือครัวเรือน
   7. การปฏิบัติตาม ลูกค้าและผู้ใช้ต้องใช้บริการโดยปฏิบัติตามนโยบายความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ ลูกค้าจะปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับที่บังคับใช้กับการใช้บริการของลูกค้า ลูกค้าจะไม่กระทำการใดๆ ที่จะทำให้ Dropbox ต้องละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของสหภาพยุโรป รัฐบัญญัติต่อต้านการทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1977 (ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม) พระราชบัญญัติต่อต้านการให้สินบนของสหราชอาณาจักร ค.ศ. 2010 หรือกฎหมายคุ้มครองข้อมูล ต่อต้านการให้สินบน ต่อต้านการทุจริต หรือต่อต้านการฟอกเงินอื่นใดที่มีผลบังคับใช้ ลูกค้าต้องมั่นใจว่า (i) บริการมีความเหมาะสมตามวัตถุประสงค์โดยคำนึงถึงลักษณะของข้อมูลลูกค้า และ (ii) ข้อกำหนดทางเทคนิคและโครงสร้างองค์กรที่มีผลบังคับใช้กับ Dropbox ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลของสหภาพยุโรปหรือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลอื่นๆ (หากมี) เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยและข้อตกลงนี้
   8. HIPAA หากลูกค้าจะจัดเก็บ ส่ง หรือประมวลผลข้อมูลผ่านบริการที่อยู่ในคำจำกัดความของ “ข้อมูลสุขภาพที่ได้รับการคุ้มครอง” ลูกค้าจะต้องทำข้อตกลงภาคีธุรกิจของ HIPAA กับ Dropbox แยกต่างหากก่อนที่จะจัดเก็บ ส่ง หรือประมวลผลข้อมูลนี้ บริการบางอย่างที่ Dropbox เสนอให้ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการประมวลผลข้อมูลสุขภาพที่ได้รับการคุ้มครองเสียทั้งหมด โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น หากลูกค้าใช้บริการที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อประมวลผลข้อมูลสุขภาพที่ได้รับการคุ้มครอง หรือไม่ได้เข้าร่วมในข้อตกลงภาคีธุรกิจของ HIPAA ลูกค้าจะต้องไม่ใช้บริการเพื่อจัดเก็บ ส่ง หรือประมวลผลข้อมูลนี้
   9. แอปของบุคคลที่สามและการผสานการใช้งาน หากลูกค้าใช้บริการหรือแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม เช่น บริการที่ใช้ API ของ Dropbox ร่วมกับบริการ (ก) Dropbox จะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำหรือการละเว้นการกระทำใดๆ ของบุคคลที่สาม ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูลของลูกค้าของบุคคลที่สาม และ (ข) Dropbox จะไม่รับประกันหรือสนับสนุนบริการใดๆ ที่บุคคลที่สามจัดหาให้ ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามข้อจำกัด API ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับแผนบริการที่ลูกค้าซื้อ
4.  ข้อมูลลูกค้า
   1. การใช้ข้อมูลลูกค้า ข้อตกลงนี้ประกอบด้วยคำแนะนำที่ลูกค้าให้แก่ Dropbox ในการประมวลผลข้อมูลลูกค้า Dropbox บุคลากร Dropbox และผู้รับจ้างช่วงของ Dropbox จะประมวลผล เข้าถึง ใช้ จัดเก็บ และโอนย้ายข้อมูลลูกค้าตามที่ลูกค้าแนะนำ เพื่อให้บริการและปฏิบัติตามข้อผูกพันของ Dropbox ในข้อตกลงนี้เท่านั้น หากลูกค้าเข้าถึงหรือใช้บริการหลายรายการ ลูกค้ารับทราบและยอมรับว่า Dropbox อาจโอนย้ายข้อมูลลูกค้าระหว่างบริการเหล่านั้น หมวดหมู่ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ Dropbox ต้องประมวลผลและกิจกรรมการประมวลผลที่จะดำเนินการภายใต้ข้อตกลงนี้มีระบุอยู่ในข้อตกลงในการประมวลผลข้อมูล Dropbox จะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงข้อกำหนดทางกฎหมายที่ทำให้ทางบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของลูกค้าได้ เว้นแต่กฎหมายที่บังคับใช้จะห้ามไม่ให้กระทำการดังกล่าวหรือเนื่องด้วยประโยชน์แห่งสาธารณชน บุคลากร Dropbox ทุกคนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าจะผูกพันตามข้อผูกพันในการรักษาความลับที่เหมาะสม
   2. มาตรการรักษาความปลอดภัย Dropbox จะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางเทคนิคและองค์กรตามมาตรฐานอุตสาหกรรมในการโอนย้าย จัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลลูกค้า ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัยของ Dropbox สำหรับบริการที่เกี่ยวข้องได้จากแหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง Dropbox อาจอัปเดตมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นครั้งคราว Dropbox จะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าอย่างน้อยหกสิบวัน หาก Dropbox อัปเดตมาตรการรักษาความปลอดภัยในลักษณะที่จะทำให้คุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยในด้านการดูแลระบบ ทางเทคนิค หรือทางกายภาพของบริการโดยรวมด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ ลูกค้าสามารถเลือกที่จะบอกเลิกข้อตกลงนี้และยกเลิกแบบฟอร์มคำสั่งซื้อที่เกี่ยวข้องได้ภายในห้าวันทำการนับจากได้รับการแจ้งนี้ โดยแจ้งให้ Dropbox ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร
   3. รายงานการตรวจสอบ Dropbox ได้ทำการตรวจสอบที่ประเมินการออกแบบและประสิทธิภาพของนโยบาย ขั้นตอน และการควบคุมการรักษาความปลอดภัยของ Dropbox สำหรับคุณสมบัติที่ได้รับการตรวจสอบ การตรวจสอบเหล่านี้ดำเนินการโดยผู้ตรวจสอบอิสระที่ประเมินการออกแบบและประสิทธิภาพของนโยบาย ขั้นตอน และการควบคุมการรักษาความปลอดภัยของ Dropbox Dropbox จะให้สำเนารายงานการตรวจสอบล่าสุดแก่ลูกค้า หากทำได้ โดยลูกค้าไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เมื่อลูกค้าส่งคำขอเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ไม่เกินปีละครั้ง โดยลูกค้าต้องตกลงที่จะเก็บรักษารายงานการตรวจสอบเป็นข้อมูลที่เป็นความลับของ Dropbox
   4. คำขอของบุคคลที่สาม
      1. หน้าที่รับผิดชอบของลูกค้า ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการตอบกลับคำขอของบุคคลที่สามโดยใช้การเข้าถึงข้อมูลของตนเอง ลูกค้าจะพยายามให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่จำเป็นเพื่อตอบกลับคำขอของบุคคลที่สามและจะติดต่อ Dropbox เฉพาะในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอของบุคคลที่สามได้แม้จะพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
      2. หน้าที่รับผิดชอบของ Dropbox หาก Dropbox ได้รับคำขอของบุคคลที่สาม Dropbox จะใช้ความพยายามที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ภายในขอบเขตที่กฎหมายและข้อกำหนดของคำขอของบุคคลที่สามอนุญาต เพื่อ (i) แจ้งให้ลูกค้าทราบทันทีว่า Dropbox ได้รับคำขอของบุคคลที่สาม (ii) ปฏิบัติตามคำขอที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ของลูกค้าเกี่ยวกับความพยายามในการคัดค้านคำขอของบุคคลที่สาม และ (iii) จัดหาข้อมูลหรือเครื่องมือที่จำเป็นให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าตอบกลับคำขอของบุคคลที่สาม ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถตอบกลับคำขอของบุคคลที่สามได้ หาก Dropbox ไม่ได้รับอนุญาตให้แจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับคำขอของบุคคลที่สามหรือลูกค้าไม่สามารถตอบกลับคำขอใด ๆ ของบุคคลที่สามได้ทันท่วงที Dropbox อาจดำเนินการดังกล่าวตามขอบเขตที่กฎหมายที่บังคับใช้อนุญาต อย่างไรก็ตาม ไม่มีภาระผูกพันที่กำหนดให้ Dropbox ต้องดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใด
   5. การแบ่งปันข้อมูลลูกค้า บริการอาจช่วยให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันข้อมูลลูกค้า รวมถึงการแบ่งปันให้กับผู้ใช้รายอื่นของลูกค้าและกับบุคคลที่สาม ผู้รับข้อมูลลูกค้าที่แบ่งปันสามารถเข้าถึง ดู ดาวน์โหลด และแบ่งปันข้อมูลลูกค้านี้ รวมถึงในและผ่านบัญชีบริการของตนเองได้ ลูกค้าเข้าใจว่า (ก) การแบ่งปันข้อมูลลูกค้าเป็นทางเลือกของลูกค้าและผู้ใช้ของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียว (ข) Dropbox ไม่สามารถควบคุมบุคคลที่สามที่ลูกค้าแบ่งปันข้อมูลลูกค้าด้วยได้ และ (ค) ลูกค้าและผู้ใช้ของลูกค้าจะต้องรับผิดชอบต่อการใช้บริการของตนเอง รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลลูกค้าผ่านบริการแต่เพียงผู้เดียว ลูกค้าและผู้ใช้รายอื่นที่ผู้ใช้ร่วมงานด้วยและหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุมโดเมนอีเมลของบริษัท หากคุณซื้อบริการโดยใช้ที่อยู่อีเมลบนโดเมนนั้น อาจสามารถดูข้อมูลบัญชีบางอย่าง เช่น ชื่อผู้ใช้ รูปโปรไฟล์ หรือข้อมูลติดต่อได้
   6. การโอนย้ายข้อมูล ลูกค้ายอมรับว่า Dropbox และผู้รับจ้างช่วงอาจโอนย้ายข้อมูลลูกค้าและเข้าถึง ใช้ และจัดเก็บข้อมูลลูกค้าในสถานที่ตั้งอื่นที่ไม่ใช่ประเทศของลูกค้า
   7. ข้อมูลรวม/ไม่ระบุชื่อ ลูกค้าตกลงว่า Dropbox จะมีสิทธิ์ที่จะสร้างข้อมูลรวมและไม่ระบุชื่อตามการใช้บริการของผู้ใช้ และข้อมูลนี้เป็นของ Dropbox โดย Dropbox อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจใดๆ ในระหว่างหรือหลังจากระยะเวลาของข้อตกลงนี้ (รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของ Dropbox และเพื่อสร้างและแจกจ่ายรายงานและเอกสารอื่นๆ) เพื่อความชัดเจน Dropbox จะไม่เปิดเผยข้อมูลรวมหรือไม่ระบุชื่อกับภายนอกในลักษณะที่มีเหตุผลให้เชื่อว่าสามารถระบุตัวตนของลูกค้าหรือผู้ใช้ได้ ลูกค้าจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้ข้อมูลรวมหรือไม่ระบุชื่อของ Dropbox
   8. คำขอให้ลบออก หากลูกค้าได้รับคำขอให้ลบออกหรือได้รับแจ้งการละเมิดที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลูกค้า ลูกค้าจะต้อง (i) หยุดใช้รายการที่เกี่ยวข้องกับบริการ และ (ii) แจ้ง Dropbox หาก Dropbox ได้รับคำขอให้ลบออกหรือได้รับแจ้งการละเมิดที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลูกค้า Dropbox อาจดำเนินการตามนโยบาย และจะแจ้งและปรึกษากับลูกค้าในขั้นตอนต่อไป
   9. ข้อตกลงในการประมวลผลข้อมูล ลูกค้าและ Dropbox ยอมรับข้อตกลงในการประมวลผลข้อมูลในขอบเขตที่ข้อมูลลูกค้าประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผลโดย Dropbox ในนามของลูกค้า ข้อตกลงในการประมวลผลข้อมูลมีผลบังคับใช้กับบริการเท่านั้น และไม่มีผลบังคับใช้กับบริการเบต้า
5.  ข้อมูลที่เป็นความลับ
   1. การใช้และการไม่เปิดเผย ฝ่ายที่รับจะเก็บรักษาไว้เป็นความลับ รวมทั้งจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับใดๆ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างชัดแจ้งในที่นี้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายในฐานะฝ่ายที่รับจะ (i) ใช้มาตรการตามสมควรเพื่อคุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับของฝ่ายที่เปิดเผย รวมถึงมาตรการที่ใช้เพื่อคุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันของตนเป็นอย่างน้อย และ (ii) ไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับแก่บุคคลที่สามใดๆ คู่สัญญาอาจเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับแก่พนักงาน ที่ปรึกษา และผู้ให้คำปรึกษาซึ่งจำเป็นต้องทราบข้อมูลที่เป็นความลับนั้น หากพนักงาน ที่ปรึกษา หรือผู้ให้คำปรึกษาดังกล่าวผูกพันตามข้อจำกัดอย่างน้อยที่สุดในการคุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับของคู่สัญญาอีกฝ่ายตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงนี้
   2. ข้อยกเว้น ข้อมูลที่เป็นความลับไม่รวมถึงข้อมูล ซึ่ง (i) เป็นหรือกลายเป็นข้อมูลที่ทราบกันโดยทั่วไปหรือแจ้งต่อสาธารณะ อันไม่ได้เกิดจากการกระทำหรือการละเลยของฝ่ายที่รับ (ii) เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วโดยไม่มีข้อจำกัดก่อนได้รับจากฝ่ายที่เปิดเผย (iii) ได้มาอย่างถูกต้องจากบุคคลที่สามซึ่งมีสิทธิ์เปิดเผยข้อมูล และให้ข้อมูลโดยปราศจากข้อจำกัดการใช้หรือการเปิดเผย หรือ (iv) จัดทำขึ้นโดยอิสระโดยไม่ได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับใดๆ ของฝ่ายที่เปิดเผย
   3. การเปิดเผยที่ได้รับอนุญาต คู่สัญญาอาจเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับในขอบเขตที่กฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับใดๆ กำหนดไว้ หากแจ้งให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าตามสมควร ในขอบเขตที่อนุญาต เพื่อให้อีกฝ่ายสามารถพยายามป้องกันหรือจำกัดการเปิดเผยดังกล่าวได้ ข้อผูกพันของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับคำขอของบุคคลที่สามมีระบุไว้อย่างเฉพาะเจาะจงในข้อ 4.4 โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น
   4. การเยียวยา ฝ่ายที่รับขอรับทราบว่า การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับโดยละเมิดข้อตกลงเหล่านี้จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างมาก ซึ่งค่าเสียหายเพียงอย่างเดียวจะไม่เป็นการเยียวยาที่เพียงพอ และด้วยเหตุนี้ เมื่อฝ่ายที่รับทำการเปิดเผยดังกล่าว ฝ่ายที่เปิดเผยจะมีสิทธิ์ที่จะขอการบรรเทาทุกข์อันชอบธรรมที่เหมาะสม นอกเหนือจากการเยียวยาอื่นใดที่อาจมีตามกฎหมาย
6.  การชำระเงิน
   1. ค่าบริการ ลูกค้าจะชำระค่าบริการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าในสกุลเงินและตามระยะเวลาการชำระเงินที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อหรือในข้อตกลงที่เกี่ยวข้องระหว่างลูกค้ากับตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า ลูกค้าอนุญาตให้ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าเรียกเก็บค่าบริการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากลูกค้าโดยใช้วิธีการชำระเงินที่ลูกค้าเลือก และลูกค้าจะออกเอกสารการสั่งซื้อที่จำเป็นให้ ทั้งนี้ ค่าบริการไม่สามารถขอคืนได้ ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามที่ได้รับอนุญาตอย่างเฉพาะเจาะจงในข้อตกลงนี้
   2. การชำระเงิน ลูกค้าจะชำระเงินใบแจ้งหนี้ของ Dropbox ตามระยะเวลาการชำระเงินที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์มการสั่งซื้อ Dropbox อาจระงับหรือยุติบริการหากค่าบริการค้างชำระ ลูกค้าจะให้ข้อมูลการจัดเก็บค่าบริการและการติดต่อที่ครบถ้วนและถูกต้องแก่ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า
   3. ภาษี ค่าบริการจะไม่รวมภาษี และลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบในการเสียภาษีทั้งหมด Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าจะเรียกเก็บภาษีเมื่อจำเป็นต้องดำเนินการเช่นนั้น หากลูกค้ามอบใบรับรองการยกเว้นภาษีที่ถูกต้องให้ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า Dropbox จะไม่เก็บภาษีที่ใบรับรองนั้นครอบคลุม
   4. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ลูกค้าจะชำระยอดสุทธิของภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เกี่ยวข้องให้ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า ลูกค้าและ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า (หากมี) จะทำงานร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีหัก ณ ที่จ่ายใดก็ตาม หากมีข้อยกเว้น หรือหากมีอัตราการหักภาษี ณ ที่จ่ายที่ลดลงตามอนุสัญญา หาก Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้ามีคุณสมบัติได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีหรือได้รับอัตราการหักภาษี ณ ที่จ่ายที่ลดลงตามอนุสัญญา Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าจะจัดหาเอกสารรับรองที่เหมาะสมให้ลูกค้า ลูกค้าจะจัดหาหลักฐานที่เหมาะสมให้ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า ซึ่งแสดงว่าลูกค้าได้ชำระภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายหรือที่หักไว้ให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว
   5. การต่ออายุอัตโนมัติและการทดลองใช้ หากลูกค้าได้แจ้งวิธีการชำระเงินกับ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าสำหรับการเรียกเก็บค่าบริการแบบประจำ และมีการตั้งค่าบัญชีของลูกค้าให้ต่ออายุอัตโนมัติหรือบัญชีของลูกค้าอยู่ในช่วงทดลองใช้ Dropbox (หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า) อาจเรียกเก็บค่าบริการโดยอัตโนมัติเมื่อสิ้นสุดช่วงทดลองใช้หรือสำหรับการต่ออายุ เว้นแต่ลูกค้าจะแจ้ง Dropbox (หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า ตามความเหมาะสม) ว่าลูกค้าต้องการปิดใช้งานการต่ออายุอัตโนมัติหรือยกเลิกบริการตามข้อ 2.2 Dropbox อาจแก้ไขอัตราค่าบริการโดยแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าอย่างน้อยสามสิบวันก่อนการเรียกเก็บค่าบริการครั้งถัดไป
   6. ใบสั่งซื้อ หากลูกค้าต้องการใช้ใบสั่งซื้อหรือเลขที่ใบสั่งซื้อ ลูกค้า: (1) ต้องแจ้งเลขที่ใบสั่งซื้อในขณะที่ทำการซื้อ และ (2) ตกลงว่าข้อตกลงและเงื่อนไขใดๆ ในใบสั่งซื้อของลูกค้าจะไม่ใช้กับข้อตกลงนี้และจะเป็นโมฆะ หากลูกค้าซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย ข้อตกลงและเงื่อนไขใดๆ จากตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าหรือในใบสั่งซื้อระหว่างลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายของลูกค้าที่ขัดแย้งกับข้อตกลงจะถือเป็นโมฆะ
   7. การไม่คืนเงิน ค่าสมัครสมาชิกและค่าบริการสำหรับการใช้งานหรือการใช้งานเกินไม่สามารถขอคืนและไม่สามารถให้เครดิตได้ ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนด การสมัครสมาชิก Dropbox อาจถูกยกเลิก และการยกเลิกดังกล่าวจะมีผลเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการสมัครสมาชิกปัจจุบันในขณะนั้นของคุณ (เช่น หากลูกค้าสมัครสมาชิกรายเดือนแบบชำระค่าบริการ การยกเลิกจะมีผลในเดือนถัดไป แต่ถ้าลูกค้าสมัครสมาชิกแบบชำระค่าบริการเป็นรายปี การยกเลิกจะมีผลในปีถัดไป)
7.  การระงับชั่วคราว
   1. การระงับบัญชีผู้ใช้โดย Dropbox หากผู้ใช้ (ก) ละเมิดข้อตกลงนี้ หรือ (ข) ใช้บริการในลักษณะที่ Dropbox มีเหตุผลสมควรให้เชื่อได้ว่าจะทำให้ Dropbox ต้องรับผิด หากเป็นเช่นนั้น Dropbox อาจขอให้ลูกค้าระงับหรือยุติการใช้งานบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง หากลูกค้าไม่สามารถระงับหรือยุติการใช้งานบัญชีผู้ใช้ได้ทันที Dropbox อาจดำเนินการดังกล่าวเอง
   2. ของบริการ Dropbox อาจระงับการเข้าถึงบริการของลูกค้า หาก (i) บัญชีของลูกค้าเกินกำหนดชำระค่าบริการ หรือ (ii) ลูกค้าใช้บริการเกินขีดจำกัด Dropbox ยังอาจระงับการเข้าถึงบริการของลูกค้าหรือลบข้อมูลลูกค้า หากพบว่า (ก) ลูกค้าละเมิดส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อตกลงเหล่านี้ หรือ (ข) การระงับชั่วคราวจำเป็นเพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินด้านการรักษาความปลอดภัย โดยที่ Dropbox จะใช้ความพยายามตามสมควรในเชิงพาณิชย์ในการปรับการระงับให้แคบลงตามความจำเป็นเพื่อป้องกันหรือยุติเหตุฉุกเฉินด้านการรักษาความปลอดภัย Dropbox จะไม่รับผิดต่อการดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาตข้างต้น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย ลูกค้าจะยังคงต้องรับผิดชอบต่อการชำระค่าบริการในช่วงระยะเวลาการระงับภายใต้ข้อ 7.2 นี้ อย่างไรก็ตาม Dropbox จะร่วมมือกับลูกค้าในการกู้คืนการเข้าถึงบริการทันทีเมื่อตรวจสอบว่าลูกค้าได้แก้ไขเงื่อนไขที่ต้องระงับชั่วคราวแล้ว เว้นแต่ข้อตกลงเหล่านี้จะถูกบอกเลิก
8.  สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา
   1. การสงวนสิทธิ์ ข้อตกลงนี้จะไม่ให้ (ก) สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ ในข้อมูลลูกค้าแก่ Dropbox หรือ (ข) สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ ในบริการหรือเครื่องหมายการค้าของ Dropbox หรือคุณสมบัติต่างๆ ของแบรนด์แก่ลูกค้า เว้นแต่จะระบุไว้โดยชัดแจ้งในที่นี้ ลูกค้ารับทราบว่าได้รับสิทธิ์ที่จำกัดในการใช้บริการเท่านั้น และจะไม่มีการโอนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของให้กับลูกค้า (หรือผู้ใช้) ภายใต้ข้อตกลงนี้โดยไม่คำนึงถึงการใช้คำว่า “ซื้อ” “จำหน่าย” หรือคำใดๆ ที่คล้ายกัน
   2. สิทธิ์แบบจำกัด ลูกค้าให้สิทธิ์แบบจำกัดแก่ Dropbox ซึ่งจำเป็นตามสมควรสำหรับ Dropbox ในการให้บริการ สิทธิ์แบบจำกัดนี้ยังครอบคลุมถึงผู้รับจ้างช่วงหรือผู้ประมวลผลรายย่อยด้วย
   3. ข้อคิดเห็น Dropbox อาจใช้ แก้ไข และรวมข้อคิดเห็นใดๆ ที่ลูกค้าหรือผู้ใช้อาจระบุ เข้ากับผลิตภัณฑ์ บริการ สิทธิ์การใช้งาน และสิทธิ์การใช้งานช่วง โดยไม่มีภาระผูกพันใดๆ กับลูกค้า ลูกค้าตกลงที่จะ (i) และให้สิทธิ์ กรรมสิทธิ์ และผลประโยชน์ทั้งหมดในข้อคิดเห็นใดๆ แก่ Dropbox และ (ii) ให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ Dropbox ซึ่งจำเป็นในการจัดทำเอกสาร และรักษาสิทธิ์ของ Dropbox ในข้อคิดเห็นดังกล่าว
9.  ระยะเวลาและการเลิกสัญญา
   1. ระยะเวลาของข้อตกลง ข้อตกลงนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้ตลอดระยะเวลาของข้อตกลง
   2. การบอกเลิกสัญญา คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถบอกเลิกข้อตกลงซึ่งรวมถึงแบบฟอร์มคำสั่งซื้อทั้งหมดได้ หาก (i) คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งฝ่าฝืนข้อตกลงนี้อย่างมีนัยสำคัญและไม่สามารถแก้ไขการฝ่าฝืนดังกล่าวได้ภายในสามสิบวันหลังจากได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร หรือ (ii) คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งหยุดการประกอบธุรกิจ หรือเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีล้มละลายและกระบวนการพิจารณาคดีดังกล่าวไม่มีการยกฟ้องภายในเก้าสิบวัน Dropbox อาจบอกเลิกข้อตกลงนี้และระงับการเข้าถึงบริการของลูกค้า หากกฎหมายกำหนดหรือในกรณีที่ลูกค้าละเมิดนโยบายความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศอย่างร้ายแรง
   3. ผลของการบอกเลิกสัญญา หากมีการบอกเลิกข้อตกลงนี้ (ก) สิทธิ์และสิทธิ์การใช้งานที่ Dropbox มอบให้แก่ลูกค้าจะสิ้นสุดลงทันที ยกเว้นตามที่ระบุไว้ในข้อนี้ (ข) ลูกค้าจะลบ (หรือส่งคืนตามคำขอของ Dropbox) สำเนารหัส เอกสาร รหัสผ่าน หรือรหัสการเข้าถึงใดๆ ของ Dropbox และข้อมูลที่เป็นความลับอื่นใดของ Dropbox ที่อยู่ในความครอบครอง การดูแล หรือการควบคุมของลูกค้า (ค) ลูกค้าอาจขอเวลาเพิ่มเติมตามสมควรเพื่อส่งออกข้อมูลที่จัดเก็บไว้ก่อนที่ข้อตกลงนี้จะยุติลง โดยที่ Dropbox อาจเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าสำหรับการเข้าถึงเพิ่มเติมนี้ตามค่าธบริการมาตรฐานปัจจุบันในขณะนั้นของ Dropbox และ (ง) Dropbox จะลบบัญชีผู้ใช้และข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในบัญชีของลูกค้าในระยะเวลาตามสมควรในเชิงพาณิชย์หลังจากได้รับคำขอของผู้ดูแลระบบให้ดำเนินการดังกล่าวก่อนที่บริการจะยุติลง Dropbox อาจให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับวิธีการส่งคำขอของผู้ดูแลระบบที่อธิบายไว้ในข้อย่อย (ง) ของวรรคก่อนหน้า และลูกค้าจะต้องรับผิดชอบในการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อเริ่มต้นการลบ
   4. การมีผลต่อไป ข้อสัญญาที่จะยังคงมีผลต่อไปแม้ว่าข้อตกลงนี้จะหมดอายุหรือมีการบอกเลิก มีดังนี้ 4.4 (คำขอของบุคคลที่สาม), 6.2 (การชำระเงิน), 8 (สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา), 9.3 (ผลของการบอกเลิกข้อตกลง), 9.4 (การมีผลต่อไป), 10 (การชดใช้ค่าเสียหาย), 11 (การปฏิเสธความรับผิด), 12 (การจำกัดความรับผิด), 13 (ข้อพิพาท) และ 14 (เบ็ดเตล็ด) ข้อ 4.4 (คำขอของบุคคลที่สาม) จะไม่มีผลต่อไปเมื่อมีการบอกเลิกข้อตกลง หาก Dropbox ได้ใช้สิทธิ์ในการบอกเลิกข้อตกลงนี้ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น
10.  ค่าสินไหมทดแทน
    1. โดยลูกค้า ลูกค้าจะชดใช้ค่าเสียหาย แก้ต่าง และยกเว้นความรับผิดให้แก่ Dropbox จากและต่อหนี้สิน ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายใดๆ (รวมถึงค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้และค่าธรรมเนียมทนายความตามสมควร) ที่เกิดจากข้อเรียกร้องใดๆ ที่มีต่อ Dropbox และบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้องกับ (ก) ข้อมูลลูกค้า (ข) โดเมนลูกค้า หรือ (ค) การใช้บริการของลูกค้าหรือผู้ใช้ของลูกค้าที่ละเมิดข้อตกลงนี้
    2. โดย Dropbox Dropbox จะชดใช้ค่าเสียหาย แก้ต่าง และยกเว้นความรับผิดให้แก่ลูกค้าจากและต่อหนี้สิน ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายใด ๆ (รวมถึงค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้และค่าธรรมเนียมทนายความตามสมควร) ที่เกิดจากข้อเรียกร้องใด ๆ ที่มีต่อลูกค้าภายใต้ข้อกล่าวหาว่าเทคโนโลยีของ Dropbox ที่ใช้เพื่อให้บริการแก่ลูกค้า ฝ่าฝืนหรือทำให้มีการใช้ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้า สิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกา หรือสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าของบุคคลที่สาม อย่างไม่เหมาะสม Dropbox จะไม่มีภาระผูกพันหรือความรับผิดภายใต้ข้อนี้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามอันเนื่องมาจาก (ก) การใช้บริการใด ๆ ภายใต้รูปแบบที่มีการดัดแปลงหรือใช้ร่วมกับสิ่งที่ Dropbox ไม่ได้จัดหาให้ และ (ข) เนื้อหา ข้อมูล หรือข้อมูลดิบใด ๆ ที่ลูกค้า ผู้ใช้ หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ จัดหาให้
    3. การละเมิดที่อาจเกิดขึ้น หาก Dropbox เชื่อว่ามีการละเมิดการใช้บริการหรือซอฟต์แวร์ หรืออาจถูกกล่าวหาว่ามีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สามแล้ว Dropbox อาจ (ก) ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ์สำหรับลูกค้าโดยใช้ค่าใช้จ่ายของ Dropbox เอง เพื่อให้สามารถใช้บริการหรือซอฟต์แวร์ได้ต่อไป (ข) จัดหาบริการทดแทนที่มีการใช้งานซึ่งเทียบเท่าที่ไม่มีการละเมิด หรือ (ค) แก้ไขบริการหรือซอฟต์แวร์เพื่อมิให้มีการละเมิดใดๆ อีกต่อไป หาก Dropbox ไม่เชื่อว่าทางเลือกใดๆ ที่ระบุไว้ในส่วนนี้สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ Dropbox อาจระงับหรือบอกเลิกสัญญาการใช้บริการหรือซอฟต์แวร์ที่ได้รับผลกระทบนั้นของลูกค้า โดยมีการคืนเงินค่าบริการหรือซอฟต์แวร์ที่ได้ชำระมาแล้วให้ตามสัดส่วน
    4. ทั่วไป คู่สัญญาฝ่ายที่เรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายจะต้องแจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบข้อเรียกร้องโดยทันที และให้ความร่วมมือกับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งในการแก้ต่างข้อเรียกร้องดังกล่าว คู่สัญญาฝ่ายที่ชดใช้ค่าเสียหายมีอำนาจและการควบคุมอย่างเต็มที่ในการแก้ต่างดังกล่าว ยกเว้นว่า (ก) การชำระหนี้ใด ๆ ที่กำหนดให้คู่สัญญาฝ่ายที่เรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายต้องยอมรับในความรับผิดนั้นกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า โดยจะไม่มีการระงับหรือล่าช้าอย่างไม่สมเหตุสมผล และ (ข) คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอาจร่วมในการแก้ต่างโดยใช้ที่ปรึกษาของตนเองและออกค่าใช้จ่ายเอง การชดใช้ค่าเสียหายข้างต้นเป็นการเยียวยาเพียงวิธีเดียวของ Dropbox และลูกค้าภายใต้ข้อตกลงนี้สำหรับการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สามโดยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง
11.  การปฏิเสธการรับผิดชอบ
    1. ทั่วไป บริการ ซอฟต์แวร์ และเอกสารที่เกี่ยวข้องใดๆ ได้รับการจัดหาให้ “ตามที่เป็น” และ “ตามที่มี” ทั้งนี้ ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต เว้นแต่จะระบุไว้โดยชัดแจ้งในข้อตกลงนี้ Dropbox และบริษัทในเครือ ผู้จัดหา ตลอดจนผู้จัดจำหน่ายจะไม่ให้การรับประกันในลักษณะใดๆ ไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย การรับประกันตามกฎหมายหรือลักษณะอื่นใด รวมถึงการรับประกันความความสามารถในเชิงพาณิชย์และความเหมาะสมแก่การใช้ประโยชน์เฉพาะอย่าง หรือการไม่ละเมิดสิทธิ์ Dropbox ไม่ได้เป็นตัวแทน ให้การรับประกัน หรือรับประกันว่าบริการจะตรงตามความต้องการหรือความคาดหวังของลูกค้า ข้อมูลลูกค้าจะถูกต้อง สมบูรณ์ หรือเก็บรักษาไว้โดยไม่สูญหาย หรือบริการจะตรงเวลา ไม่หยุดชะงัก หรือปราศจากข้อผิดพลาด Dropbox จะไม่รับผิดชอบหรือรับผิดในลักษณะใดๆ สำหรับทรัพย์สินของลูกค้า ข้อมูลลูกค้า ผลิตภัณฑ์ของบุคคลที่สาม เนื้อหาของบุคคลที่สาม หรือบริการที่ไม่ใช่ของ Dropbox (รวมถึงความล่าช้า การหยุดชะงัก ข้อผิดพลาดในการส่ง และปัญหาอื่นๆ ที่เกิดจากสิ่งเหล่านี้) ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบต่อการใช้บริการหรือซอฟต์แวร์ตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในที่นี้ และการสำรองข้อมูลใดๆ ที่จัดเก็บไว้ในบริการ
    2. บริการเบต้า
       1. การใช้งานตามดุลยพินิจของลูกค้า แม้อาจมีข้อความใดๆ ที่ขัดกันในข้อตกลง (ก) ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการเบต้าตามวิจารณญาณของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียว (ข) บริการเบต้าอาจไม่ได้รับการสนับสนุนและอาจเปลี่ยนแปลงเมื่อใดก็ตามโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า (ค) บริการเบต้าอาจไม่ยังไม่เสถียรหรือพร้อมใช้งานเหมือนบริการ (ง) บริการเบต้าอาจไม่ผ่านมาตรการในการรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบดังที่บริการผ่านมาแล้ว และ (จ) Dropbox จะไม่รับผิดกรณีใดๆ ที่เกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องกับบริการเบต้า การใช้งานถือเป็นความเสี่ยงของคุณเอง
       2. ข้อคิดเห็น Dropbox เสนอบริการเบต้าเพื่อรับข้อคิดเห็นจากผู้ใช้ เพื่อแลกกับการใช้บริการเบต้า ลูกค้าตกลงว่า Dropbox จะสามารถติดต่อลูกค้าและผู้ใช้ของลูกค้าเพื่อขอรับข้อคิดเห็นเกี่ยวกับบริการเบต้าได้
       3. ข้อมูลที่เป็นความลับ บริการเบต้าจะเป็นความลับจนกว่า Dropbox จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และลูกค้าจะเก็บรักษาบริการเบต้า และเอกสาร ข้อมูลจำเพาะ หรือคำแนะนำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการเบต้าเป็นข้อมูลที่เป็นความลับของ Dropbox
12.  การจำกัดความรับผิด
    1. การจำกัดความรับผิดทางอ้อม ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายกำหนด ลูกค้าและ Dropbox ตลอดจนบริษัทในเครือ ผู้จัดหา และผู้จัดจำหน่ายจะไม่รับผิดภายใต้ข้อตกลงสำหรับ (I) ความเสียหายทางอ้อม ความเสียหายจำเพาะ ความเสียหายอันเนื่องมาจากการผิดสัญญา ความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่อง ความเสียหายที่เป็นการตักเตือนหรือเชิงลงโทษ หรือ (II) การสูญเสียการใช้ ข้อมูล ธุรกิจ รายได้ หรือผลกำไร (ในแต่ละกรณีไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม) แม้ว่าคู่สัญญาฝ่ายดังกล่าวจะรับทราบหรือควรได้รับทราบถึงความเป็นไปได้ในการเกิดความเสียหายนั้นแล้วก็ตาม หรือแม้ว่าการเยียวยานั้นจะไม่บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่สำคัญก็ตาม เว้นแต่ว่าจะมีข้อผูกพันในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของ Dropbox หรือลูกค้า
    2. ข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนเงินในการรับผิด ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต ความรับผิดรวมของ Dropbox ภายใต้ข้อตกลงนี้จะต้องไม่เกินน้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์ หรือไม่เกินยอดที่ลูกค้าชำระให้แก่ Dropbox ภายใต้ข้อตกลงนี้ในช่วงสิบสองเดือนก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความรับผิด สำหรับการสมัครสมาชิกฟรี การทดลองใช้ หรือบริการเบต้า ความรับผิดทั้งหมดของ Dropbox รวมแล้วจะไม่เกินห้าสิบดอลลาร์สหรัฐ (50 ดอลลาร์)
    3. ความล้มเหลวของวัตถุประสงค์สำคัญ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับทราบและตกลงว่าข้อ 12 นี้เป็นพื้นฐานของการเจรจาต่อรองและการจัดสรรความเสี่ยงตามสมควรระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย และจะมีผลต่อไปและมีผลบังคับใช้กับข้อเรียกร้องใดๆ ที่เกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงเหล่านี้ บริการใดๆ ของ Dropbox โดยไม่คำนึงถึงทฤษฎีความรับผิด (สัญญา การละเมิด ความรับผิดที่เข้มงวด หรืออย่างอื่น) แม้ว่าจะพบว่ามีการเยียวยาอย่างจำกัดในข้อตกลงเหล่านี้ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์สำคัญ
13.  ข้อพิพาท
    1. การระงับข้อพิพาทอย่างไม่เป็นทางการ ก่อนยื่นข้อเรียกร้อง คู่สัญญาแต่ละฝ่ายตกลงที่จะพยายามระงับข้อพิพาทโดยติดต่อคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งผ่านกระบวนการส่งหนังสือบอกกล่าวตามที่ระบุไว้ในข้อ 14.6 หากข้อพิพาทดังกล่าวไม่สามารถระงับได้ภายในสามสิบวันนับจากการส่งหนังสือบอกกล่าว ลูกค้าหรือ Dropbox อาจนำข้อพิพาทนั้นเข้าสู่กระบวนพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการต่อไป
    2. การอนุญาโตตุลาการ ลูกค้าและ Dropbox ตกลงที่จะระงับข้อเรียกร้องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้หรือบริการผ่านการอนุญาโตตุลาการขั้นสุดท้ายและมีผลผูกพัน ยกเว้นตามที่ระบุไว้ด้านล่าง โดยรวมถึงข้อพิพาทที่เกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับการตีความหรือการใช้ข้อย่อย “การอนุญาโตตุลาการ” นี้ รวมถึงขอบเขต การบังคับใช้ได้ การเพิกถอนได้ หรือความสมบูรณ์ตามกฎหมาย สมาคมอนุญาโตตุลาการของสหรัฐอเมริกา (American Arbitration Association หรือ AAA) จะเป็นผู้ดำเนินการภายใต้กฎการอนุญาโตตุลาการเชิงพาณิชย์ การอนุญาโตตุลาการจะดำเนินการในซานฟรานซิสโก (CA) หรือสถานที่ตั้งอื่นใดที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร อนุญาโตตุลาการอาจให้การบรรเทาทุกข์เป็นรายบุคคลเท่านั้นและเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรเทาข้อเรียกร้องของลูกค้าหรือ Dropbox เท่านั้น อนุญาโตตุลาการอาจไม่ให้การบรรเทาทุกข์ในนามของผู้อื่นหรือประชาชนทั่วไป บริษัทในเครือและตัวแทนในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคตอาจอ้างสิทธิ์ของเราภายใต้ข้อ “ข้อพิพาท” นี้ ในกรณีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทกับคุณ อีกนัยหนึ่ง ข้อตกลงเหล่านี้ไม่ให้สิทธิ์แก่บุคคลที่สาม
    3. ข้อยกเว้นของการอนุญาโตตุลาการ คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจยื่นให้มีการพิจารณาคดีในศาลรัฐบาลกลางหรือศาลมลรัฐของเค้าท์ตี้ซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้หยุดการใช้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือการใช้บริการในทางที่ผิด หรือการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาโดยไม่ได้ทำขั้นตอนการแจ้งข้อพิพาทอย่างไม่เป็นทางการในเบื้องต้นตามที่ระบุไว้ข้างต้น ทั้งลูกค้าและ Dropbox ยอมรับในสถานที่พิจารณาคดีและอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีเหนือบุคคลในศาลดังกล่าว
    4. ไม่มีการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ลูกค้าสามารถแก้ไขข้อพิพาทกับ Dropbox ในลักษณะแบบรายบุคคล และจะไม่ยื่นข้อเรียกร้องเพื่อดำเนินการคดีแบบกลุ่ม แบบรวม หรือแบบโดยตัวแทน ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้มีการอนุญาโตตุลาการแบบกลุ่ม การดำเนินคดีแบบกลุ่ม การดำเนินคดีโดยอัยการในภาคเอกชน และการรวมเข้ากับการอนุญาโตตุลาการอื่นๆ
    5. การเป็นโมฆะเป็นบางส่วน หากพบว่าส่วนใดของข้อ “ข้อพิพาท” นี้ผิดกฎหมายหรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ ส่วนที่เหลือจะยังคงมีผล ยกเว้นแต่ในกรณีที่พบว่าผิดกฎหมายหรือไม่สามารถบังคับใช้ได้เพียงบางส่วน จะอนุญาตการอนุญาโตตุลาการโดยกลุ่มบุคคลหรือโดยผู้แทนได้ ข้อ “ข้อพิพาท” นี้จะไม่สามารถบังคับใช้ได้ทั้งหมด หากพบว่าคุณมีสิทธิ์ที่ไม่สามารถสละสิทธิ์ได้ในการยื่นข้อเรียกร้องหรือร้องขอการบรรเทาทุกข์ในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งอนุญาโตตุลาการไม่มีอำนาจในการบรรเทาหรือให้คำชี้ขาดตามข้อ “ข้อพิพาท” นี้ เฉพาะในกรณีดังกล่าวเท่านั้นที่อาจมีการนำข้อเรียกร้องหรือคำขอการบรรเทาทุกข์ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่ชั้นศาล โดยคุณและเราตกลงกันว่าการฟ้องร้องคดีของข้อเรียกร้องหรือคำร้องขอการบรรเทาทุกข์ใดๆ ดังกล่าวจะยังคงอยู่ระหว่างรอการระงับข้อเรียกร้องหรือคำขอการบรรเทาทุกข์ในการอนุญาโตตุลาการ
14.  เบ็ดเตล็ด
    1. การแก้ไขข้อตกลง Dropbox อาจแก้ไขข้อตกลงนี้เป็นครั้งคราว และจะมีการประกาศเนื้อหาของข้อตกลงฉบับล่าสุดไว้บนเว็บไซต์ของ Dropbox เสมอ หากการแก้ไขดังกล่าวเป็นการแก้ไขในส่วนสาระสำคัญ Dropbox จะแจ้งให้ลูกค้าทราบ (เช่น โดยการส่งอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่มีผลนั้น) ทั้งนี้โดยอยู่ภายใต้ดุลพินิจของ Dropbox แต่เพียงผู้เดียว การแก้ไขอื่นๆ อาจประกาศในบล็อกหรือหน้าแสดงข้อตกลงของ Dropbox และลูกค้าจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบข้อความประกาศเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ หากลูกค้าเข้าถึงหรือใช้บริการของเราต่อหลังจากการแก้ไขเริ่มมีผลแล้ว จะถือว่าลูกค้ายอมรับที่จะผูกพันตามข้อตกลงฉบับแก้ไข หากลูกค้าไม่ยอมรับข้อตกลงในข้อตกลงฉบับแก้ไขนี้ ลูกค้าสามารถบอกเลิกบริการได้ภายในสามสิบวันนับจากได้รับหนังสือแจ้งการเปลี่ยนแปลง
    2. ข้อตกลงที่สมบูรณ์ ข้อตกลงนี้มีผลเหนือข้อตกลงหรือความเข้าใจใดๆ ก่อนหน้าระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย และถือเป็นข้อตกลงที่สมบูรณ์ระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ข้อตกลงเฉพาะบริการ ข้อตกลงในการประมวลผลข้อมูล ใบแจ้งหนี้ของลูกค้า และแบบฟอร์มคำสั่งซื้อที่ดำเนินการโดยคู่สัญญา จะรวมอยู่ในข้อตกลงนี้โดยการอ้างอิงนี้
    3. การตีความข้อตกลงที่ขัดกัน หากมีข้อขัดแย้งระหว่างเอกสารที่ประกอบเป็นข้อตกลงนี้ เอกสารจะควบคุมตามลำดับต่อไปนี้ ใบแจ้งหนี้ ข้อตกลงเฉพาะบริการ แบบฟอร์มคำสั่งซื้อ และข้อตกลงบริการ Dropbox ข้อตกลงและเงื่อนไขของข้อตกลงนี้จะถือเป็นข้อมูลที่เป็นความลับของ Dropbox ลูกค้าตกลงว่าข้อตกลงและเงื่อนไขใดๆ ในคำสั่งซื้อของลูกค้าจะไม่มีผลบังคับใช้กับข้อตกลงนี้ และจะถือเป็นโมฆะ หากผู้ใช้จำเป็นต้องคลิกผ่านข้อตกลงการใช้บริการเพื่อใช้บริการ การคลิกผ่านข้อตกลงเหล่านั้นจะอยู่ภายใต้ข้อตกลงนี้ และข้อตกลงนี้จะควบคุมหากมีข้อขัดแย้ง
    4. กฎหมายที่ควบคุม ข้กตกลงนี้จะถูกควบคุมโดยกฎหมายของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เว้นแต่จะมีข้อขัดแย้งกับหลักของกฎหมาย
    5. การเป็นโมฆะเป็นบางส่วน ข้อกำหนดที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จะได้รับการแก้ไขเพื่อแสดงถึงเจตนาของคู่สัญญา และในเฉพาะขอบเขตที่จำเป็นเพื่อทำให้ข้อกำหนดเหล่านั้นสามารถบังคับใช้ได้ ส่วนข้อกำหนดอื่นๆ ที่เหลือของข้อตกลงนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้โดยสมบูรณ์ต่อไป
    6. หนังสือแจ้ง หนังสือแจ้งต้องส่งทางบริการจัดส่งทางอีเมล ไปรษณีย์ชั้นหนึ่ง ไปรษณีย์อากาศ หรือไปรษณีย์แบบข้ามคืน และถือว่าได้ส่งมอบให้แล้วเมื่อได้รับ หนังสือแจ้งถึงลูกค้าอาจส่งไปยังที่อยู่อีเมลของบัญชีที่ใช้งาน และถือว่าได้ส่งมอบให้แล้วเมื่อได้ส่งออกไป หนังสือแจ้งถึง Dropbox ต้องส่งไปยังแผนกกฎหมายของ Dropbox ที่ [email protected] พร้อมส่งสำเนาไปยัง Dropbox, Inc., P.O. Box 77767, San Francisco, CA 94107, attn.: Legal Department
    7. การสละสิทธิ์ การสละสิทธิ์ในเหตุผิดข้อสัญญาใดๆ จะไม่เป็นการสละสิทธิ์ในเหตุผิดข้อสัญญาใดๆ ที่เกิดขึ้นตามมาด้วย
    8. การโอนสิทธิ์ ลูกค้าไม่สามารถโอนสิทธิ์ หรือโอนข้อตกลงนี้ หรือสิทธิ์หรือภาระผูกพันใด ๆ ภายใต้ข้อตกลงนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Dropbox ยกเว้นว่าลูกค้าอาจโอนสิทธิ์ในข้อตกลงให้แก่หน่วยงานที่คงอยู่ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ หรือการขายสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด โดยแจ้งให้ Dropbox ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร Dropbox ไม่สามารถโอนสิทธิ์ในข้อตกลงนี้โดยไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบ ยกเว้นว่า Dropbox อาจโอนสิทธิ์ในข้อตกลงนี้ หรือสิทธิ์หรือภาระผูกพันใด ๆ ภายใต้ข้อตกลงนี้ให้แก่บริษัทในเครือ หรือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การปรับโครงสร้างบริษัท หรือการขายสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ ความพยายามอื่น ๆ ในการโอนหรือโอนสิทธิ์จะเป็นโมฆะ
    9. ไม่มีการเป็นตัวแทน Dropbox และลูกค้าไม่ใช่หุ้นส่วนหรือตัวแทนตามกฎหมาย แต่เป็นผู้รับเหมาอิสระ
    10. การรับจ้างช่วง ลูกค้ายินยอมให้ Dropbox แต่งตั้งผู้รับจ้างช่วง ซึ่งรวมถึงผู้ประมวลผลรายย่อยเพื่อให้บริการ Dropbox จะยังคงรับผิดต่อการกระทำหรือการละเว้นการกระทำทั้งหมดของผู้รับจ้างช่วงหรือผู้ประมวลผลรายย่อย และต่อภาระผูกพันใดๆ ที่มีการรับจ้างช่วง
    11. เหตุสุดวิสัย Dropbox และลูกค้าจะไม่ต้องรับผิดต่อการดำเนินการที่ต่ำกว่ามาตรฐานกำหนด อันเนื่องมาจากเงื่อนไขที่เกินขอบเขตการควบคุมที่สมเหตุสมผลของคู่สัญญา (เช่น ภัยพิบัติจากธรรมชาติ สงครามหรือการก่อการร้าย เหตุจลาจล สภาพแรงงาน การดำเนินการขอภาครัฐ และการรบกวนสัญญาณอินเทอร์เน็ต) เว้นเสียแต่จะมีข้อผูกพันในด้านการชำระเงิน
    12. ไม่มีบุคคลที่สามเป็นผู้รับประโยชน์ ข้อตกลงนี้ไม่มีบุคคลที่สามเป็นผู้รับประโยชน์ ผู้ใช้ของลูกค้าจะไม่ใช่บุคคลที่สามที่เป็นผู้รับประโยชน์ในสิทธิ์ของลูกค้าภายใต้ข้อตกลงนี้ ทั้งนี้ โดยไม่จำกัดเฉพาะข้อความในข้อนี้
15.  คำนิยาม

"นโยบายความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ" หมายถึง นโยบายความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศที่ระบุไว้ที่ลิงก์ต่อไปนี้ หรือลิงก์อื่นที่ Dropbox อาจให้ไว้ https://zss1.13896912.xyz/acceptable_use

"ข้อมูลบัญชี" หมายถึงข้อมูลบัญชีหรือข้อมูลติดต่อที่ส่งไปยังบริการโดยลูกค้าหรือผู้ใช้

"แอด-ออน" หมายถึง คุณสมบัติ ส่วนประกอบ บริการ หรือฟังก์ชันเพิ่มเติมที่สามารถซื้อหรือให้สิทธิ์แยกต่างหากเพื่อใช้กับบริการบางอย่างได้

"ผู้ดูแลระบบ" หมายถึง ผู้ใช้ทางเทคนิคที่ลูกค้ากำหนด ซึ่งดูแลระบบบริการที่ให้แก่ผู้ใช้ในนามของลูกค้าผ่านระดับการควบคุมหลายระดับ

"บัญชีผู้ดูแลระบบ" หมายถึง บัญชีการดูแลระบบที่ Dropbox มอบให้ลูกค้าเพื่อใช้ในการดูแลระบบบริการ

"แผงควบคุมของผู้ดูแลระบบ" หมายถึงเครื่องมือออนไลน์ที่ Dropbox จัดหาให้ลูกค้าเพื่อใช้ในการควบคุมดูแลบริการ

"บริษัทในสังกัด" หมายถึงองค์ใดก็ตามที่ควบคุม ถูกควบคุมโดย หรืออยู่ภายใต้การควบคุมทั่วไปกับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง โดยที่ "การควบคุม" หมายถึงความสามารถกำหนดทิศทางการจัดการและนโยบายขององค์กร

"ข้อตกลงนี้" หมายรวมถึง ข้อตกลงบริการ Dropbox นี้ แบบฟอร์มคำสั่งซื้อที่เกี่ยวข้องแต่ละฉบับ ข้อตกลงในการประมวลผลข้อมูล และหากมี ข้อตกลงภาคีธุรกิจ HIPAA และภาคผนวกของบริการใดๆ ที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ทำ

"รายงานการตรวจสอบ" หมายถึงรายงานการตรวจสอบคุณสมบัติที่ได้รับการตรวจสอบที่เกี่ยวข้อง

“คุณสมบัติที่ได้รับการตรวจสอบ” หมายถึงการบริการ ส่วนประกอบของบริการ หรือคุณสมบัติที่กล่าวถึงในลิงก์ต่อไปนี้: https://assets.dropbox.com/documents/en/legal/audited-features-current.pdf หรือลิงก์อื่นที่ Dropbox อาจจัดเตรียมให้ซึ่ง Dropbox อาจมีการอัปเดตเป็นครั้งคราว เฉพาะคุณสมบัติที่ได้รับการตรวจสอบแล้วเท่านั้นที่จะรวมอยู่ในขอบเขตของรายงานการตรวจสอบในข้อตกลงนี้

"บริการเบต้า" หมายถึงผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติที่ถูกระบุเป็นอัลฟ่า เบต้า ตัวอย่าง การใช้งานระยะแรก หรือการประเมิน หรือคำหรือข้อความที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน

"การอ้างสิทธิ์" หมายถึงการเรียกร้องสิทธิโดยบริษัทภายนอก รวมถึงการลงโทษตามกฎหมายด้วย

"ข้อมูลที่เป็นความลับ" หมายถึง ข้อมูลที่เปิดเผยโดยคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งมีการระบุว่าเป็นความลับ ณ เวลาที่เปิดเผยหรือมีเหตุผลให้ควรทราบโดยฝ่ายที่รับว่าเป็นข้อมูลที่เป็นความลับเนื่องจากลักษณะของข้อมูลที่เปิดเผยและสถานการณ์โดยรอบการเปิดเผย ข้อมูลประสิทธิภาพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการและข้อตกลงและเงื่อนไขของข้อตกลงนี้จะถือเป็นข้อมูลที่เป็นความลับของ Dropbox โดยไม่ต้องมีเครื่องหมายใดๆ กำกับหรือการกำหนดเพิ่มเติม

"ข้อมูลลูกค้า" หมายถึง ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ข้อมูลบัญชี และข้อความ ความคิดเห็น ข้อมูลที่มีโครงสร้าง รูปภาพ และเนื้อหาอื่นๆ ที่ลูกค้าหรือผู้ใช้ส่งไปยังบริการ

"โดเมนลูกค้า" หมายถึงชื่อโดเมนอินเทอร์เน็ตของลูกค้า

"ข้อตกลงในการประมวลผลข้อมูล" หมายถึง ข้อตกลงในการประมวลผลข้อมูลที่ระบุไว้ที่ลิงก์ต่อไปนี้ https://assets.dropbox.com/documents/en/legal/dfb-data-processing-agreement.pdf หรือลิงก์อื่นที่ Dropbox อาจให้ไว้

"ฝ่ายที่เปิดเผย" หมายถึง ฝ่ายที่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับแก่อีกฝ่ายหนึ่ง

"EEA" หมายถึง เขตเศรษฐกิจยุโรป

"วันที่มีผล" หมายถึง วันที่ที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายลงนามในสัญญา ข้อตกลงบริการ Dropbox นี้ ไม่ว่าจะโดยการยอมรับผ่านทางช่องทางออนไลน์หรือโดยการลงนามในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อก็ตาม

"ผู้ใช้" หมายถึง ผู้ใช้บัญชีบริการของลูกค้า ผู้ใช้อาจรวมถึงพนักงาน ที่ปรึกษา ตัวแทน ผู้แทน นักเรียน หรือบุคคลอื่นๆ ของลูกค้าและบริษัทในเครือของลูกค้า ซึ่งได้รับอนุญาตจากลูกค้าให้ใช้บริการผ่านบัญชีของลูกค้า

"บัญชีผู้ใช้" หมายถึง บัญชีที่ Dropbox เป็นผู้โฮสต์ซึ่งลูกค้าให้สิทธิ์ผ่านบริการสำหรับผู้ใช้

"สิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้" หมายถึง สิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้ที่ลูกค้าซื้อ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถให้สิทธิ์แก่บัญชีผู้ใช้ได้

"กฎหมายคุ้มครองข้อมูลของสหภาพยุโรป" หมายถึง กฎหมายที่บังคับใช้เพื่อให้เกิดผลตามกฎข้อบังคับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของสหภาพยุโรป (2016/679) และกฎหมายใดๆ ที่บังคับใช้ในแต่ละประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในขอบเขตที่มีผลบังคับและบังคับใช้เป็นครั้งคราว

"กฎหมายควบคุมการส่งออก" หมายถึง กฎหมายและกฎข้อบังคับควบคุมการส่งออกและการส่งออกซ้ำที่บังคับใช้ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงกฎข้อบังคับการควบคุมดูแลการส่งออก (Export Administration Regulations หรือ "EAR") ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาดูแล การคว่ำบาตรทางการค้าและเศรษฐกิจที่สำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาดูแล และกฎข้อบังคับการขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ระหว่างประเทศ (International Traffic in Arms Regulations หรือ "ITAR") ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาดูแล

"ข้อคิดเห็น" หมายถึง ข้อคิดเห็น ความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบริการหรือบริการเบต้าที่ลูกค้าหรือผู้ใช้อาจส่งให้ Dropbox หรือโพสต์ในฟอรัมของ Dropbox ข้อคิดเห็นอาจรวมถึงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ รายงานข้อผิดพลาด และการวิเคราะห์โดยวาจาหรือเป็นลายลักษณ์อักษร

“ค่าบริการ” หมายถึงจำนวนเงินตามที่ Dropbox ออกใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้า 

“HIPAA” หมายถึงพระราชบัญญัติว่าด้วยการเคลื่อนย้ายและความรับผิดชอบในการประกันสุขภาพ ปี 1996 รวมถึงกฎและข้อบังคับภายใต้ ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม

“ข้อตกลงภาคีธุรกิจของ HIPAA” หมายถึงข้อตกลงระหว่างลูกค้าและ Dropbox ซึ่งระบุรายละเอียดภาระผูกพันของแต่ละฝ่ายเกี่ยวกับ “ข้อมูลสุขภาพที่ได้รับการคุ้มครอง” ภายใต้ HIPAA

"ระยะเวลาเริ่มต้นใช้บริการ" หมายถึงระยะเวลาสำหรับบริการที่เกี่ยวข้องที่เริ่มต้นในวันที่จัดหาบริการและคงอยู่ต่อไปตลอดช่วงเวลาที่ระบุในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ

"สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา" หมายถึงสิทธิ์ในปัจจุบันและอนาคตที่ครอบคลุมทั่วโลกภายใต้สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้า เครื่องหมายการค้า ธรรมสิทธิ และสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันอื่นๆ

"แบบฟอร์มคำสั่งซื้อ" หมายถึง เอกสารการสั่งซื้อ หน้าคำสั่งซื้อ หรืออินเตอร์เฟสผู้ใช้ ซึ่งเป็นช่องทางที่ลูกค้าใช้ซื้อการสมัครสมาชิกบริการหรือเปิดใช้งานการเข้าถึงบริการ

“ข้อมูลส่วนตัว” “ประมวลผล” และ “การประมวลผล” มีความหมายตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของสหภาพยุโรป 

“ข้อมูลสุขภาพที่ได้รับการคุ้มครอง” หรือ “PHI” จะมีความหมายตามที่ให้ไว้ภายใต้ HIPAA หากให้ Dropbox ไว้เป็นข้อมูลที่จัดเก็บซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้บริการของลูกค้าที่มีให้ภายใต้ข้อตกลง

"วันที่จัดหาบริการ" คือวันที่ที่ Dropbox ทำให้บริการพร้อมใช้งานสำหรับลูกค้า

"ฝ่ายรับ" หมายถึง คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับข้อมูลที่เป็นความลับจากอีกฝ่ายหนึ่ง

"ระยะเวลาการต่ออายุ" หมายถึง ระยะเวลาการต่ออายุที่มีระยะเวลาเท่ากับระยะเวลาบริการครั้งแรกหรือระยะเวลาการต่ออายุก่อนหน้า เว้นแต่จะคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันเป็นอย่างอื่นเป็นลายลักษณ์อักษร

"เหตุฉุกเฉินด้านการรักษาความปลอดภัย" หมายถึง (i) การใช้บริการที่ขัดขวางหรืออาจขัดขวางการให้บริการ การใช้บริการของลูกค้ารายอื่น หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ในการให้บริการ หรือ (ii) การที่บุคคลที่สามเข้าถึงบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

“มาตรการรักษาความปลอดภัย” หมายถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านเทคนิคและองค์กรที่ Dropbox นำมาใช้สำหรับบริการที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในลิงก์ต่อไปนี้: https ://assets.dropbox.com/documents/en/legal/security-measures.pdf  หรือลิงก์อื่นๆ ที่ Dropbox อาจมีให้

"แหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัย" หมายถึง หน้าเว็บ แหล่งข้อมูล คู่มือ และเอกสารรายงานใดๆ เกี่ยวกับมาตรการทางเทคนิคหรือองค์กรที่ Dropbox นำไปใช้สำหรับบริการที่เกี่ยวข้องที่อธิบายไว้ในข้อตกลงเฉพาะบริการ

"บริการ" หมายถึง บริการที่ลูกค้าสั่งซื้อในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ ยกเว้นแอด-ออนของบุคคลที่สาม (ตามที่ระบุไว้ ณ เวลาที่ซื้อหรือเปิดใช้งาน)

"ข้อตกลงเฉพาะบริการ" หมายถึง ข้อตกลงเพิ่มเติมที่มีผลบังคับใช้กับบริการหรือแอด-ออนบางอย่างตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก 2 หรือแนบมากับแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ

"ระยะเวลาบริการ" หมายถึงระยะเวลาเริ่มใช้บริการและระยะเวลาการต่ออายุทั้งหมดสำหรับบริการที่เกี่ยวข้อง

"ขีดจำกัดบริการ" หมายถึง อัตรา พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ผู้ใช้ หรือข้อจำกัดอื่นๆ ในการใช้บริการของลูกค้าตามที่อธิบายไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อหรือหน้าคำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

"ซอฟต์แวร์" หมายถึง ซอฟต์แวร์ไคลเอ็นท์ที่ Dropbox จัดหาให้เป็นส่วนหนึ่งของบริการโดยตรงหรือผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายของบุคคลที่สาม เช่น ร้านค้าแอป

"ข้อมูลที่จัดเก็บไว้" หมายถึง ไฟล์ที่ลูกค้าหรือผู้ใช้อัปโหลดไปยังบริการ

"ผู้รับจ้างช่วง" หมายถึง หน่วยงานที่ Dropbox จ้างช่วงสำหรับภาระผูกพันใดๆ ของ Dropbox ภายใต้ข้อตกลงนี้

"ผู้ประมวลผลรายย่อย" หมายถึง หน่วยงานที่ตกลงจะประมวลผลข้อมูลลูกค้าในนาม Dropbox หรือในนามของผู้ประมวลผลรายย่อยอื่นของ Dropbox เพื่อให้บริการ

"ภาษี" หมายถึงภาษีการขาย การใช้ มูลค่าเพิ่ม สินค้าและบริการ การบริโภค ภาษีสรรพสามิต อากรแสตมป์ท้องถิ่น หรือภาษีอื่น (รวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่แต่ ISS, CIDE, PIS, CONFINS) อากรหรือการเรียกเก็บอื่นในประเภทหรือลักษณะใดก็ตาม ไม่รวมภาษีที่คำนวณจากรายได้สุทธิของ Dropbox ที่เชื่อมโยงกับบริการหรือซอฟ์ตแวร์ รวมถึงค่าปรับหรือผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องใดก็ตาม

"ระยะเวลา" หมายถึง ระยะเวลาของข้อตกลงที่เริ่มในวันที่มีผลบังคับใช้และดำเนินต่อไปจนถึงก่อน (i) สิ้นสุดระยะเวลาการให้บริการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หรือ (ii) มีการบอกเลิกข้อตกลงตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงนี้

"คำขอของบุคคลที่สาม" หมายถึงคำขอจากบุคคลที่สามเพื่อขอบันทึกเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้สุดท้าย รวมถึงข้อมูลจากภายในหรือที่มาจากบัญชีผู้ใช้สุดท้ายหรือจากบัญชีบริการของลูกค้า คำขอของบุคคลที่สามอาจประกอบด้วยหมายค้น คำสั่งศาล หรือหมายศาล หรือคำขออื่นใดที่มีการลงนามยินยอมจากผู้ใช้สุดท้ายหรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาตของผู้ใช้สุดท้ายเพื่ออนุญาตให้เปิดเผยข้อมูล

"ภาษีหัก ณ ที่จ่าย" หมายถึง ภาษีเงินได้ใดๆ ที่เรียกเก็บจาก Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ลูกค้าหัก ณ ที่จ่ายหรือหักจากการชำระเงินให้กับ Dropbox หรือตัวแทนจำหน่ายของลูกค้า

ภาคผนวก 1:
หน่วยงานของ Dropbox

ข้อตกลงนี้จะเป็นข้อตกลงระหว่างลูกค้าและหน่วยงานของ Dropbox ตามความเหมาะสมต่อไปนี้

• Dropbox, Inc: ลูกค้าที่อยู่ในแคนาดา เม็กซิโก หรือสหรัฐอเมริกา หรือดินแดนและพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศนั้น
• Dropbox International Unlimited Company ลูกค้าที่อยู่นอกประเทศแคนาดา เม็กซิโก หรือสหรัฐอเมริกา หรือดินแดนและพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศนั้น

ภาคผนวก 2:
ข้อตกลงเฉพาะบริการ

โพสต์เมื่อ: 5 สิงหาคม 2024

มีผลบังคับใช้เมื่อ 5 สิงหาคม 2024

ข้อตกลงเฉพาะบริการเหล่านี้จะกำหนดข้อตกลงและเงื่อนไขเพิ่มเติมที่เฉพาะเจาะจงของบริการสำหรับทีมตามรายการด้านล่าง เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความชัดเจน ข้อตกลงนี้ไม่มีผลบังคับใช้กับผลิตภัณฑ์ Dropbox สำหรับผู้บริโภคหรือบุคคลทั่วไป รวมถึง Dropbox Basic (สำหรับรายบุคคล), Plus, Family หรือ Professional
Dropbox อาจปรับปรุงข้อตกลงเฉพาะบริการเหล่านี้เป็นครั้งคราว รวมทั้งเพิ่มข้อตกลงเฉพาะบริการเพิ่มเติมสำหรับบริการใหม่ที่ Dropbox ให้บริการโดยการโพสต์ข้อตกลงฉบับปรับปรุง หากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเฉพาะบริการใดๆ สำหรับบริการใดๆ ที่ลูกค้าซื้อไปแล้ว Dropbox จะแจ้งให้ลูกค้าทราบตามส่วนที่ 14.1 ของข้อตกลงบริการ Dropbox

Dropbox Business และ Dropbox Business Plus

1.  คำอธิบายบริการ บริการ Dropbox Business และ Dropbox Business Plus นำเสนอชุดเครื่องมือเพื่อจัดการเนื้อหา และขั้นตอนการทำงานของทีมเอาไว้ในที่เดียว ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อาจสามารถจัดเก็บและปกป้องเนื้อหา ทำงานร่วมกับผู้อื่นในเนื้อหา ดูการวิเคราะห์เกี่ยวกับเนื้อหาที่เขาแบ่งปัน และส่งคำขอลายเซ็นได้ เป็นต้น
2. ข้อตกลงสำหรับฟังก์ชันการทำงานเฉพาะ ฟังก์ชันการทำงาน กรอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด และโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้กับบริการเหล่านี้อธิบายไว้ในส่วนข้อตกลงเฉพาะบริการอื่นๆ ดังนี้: 

2.1. ฟังก์ชันการจัดเก็บ การซิงค์ และการแชร์ไฟล์อยู่ภายใต้ข้อตกลงเฉพาะบริการของ Dropbox Standard, Advanced, Enterprise และ Education

2.2. ยกเว้นตามที่กำหนดไว้ในส่วนที่ 2.4 ของข้อกำหนดเฉพาะบริการของ Dropbox Business และ Dropbox Business Plus ด้านล่าง ฟังก์ชัน “ส่งและติดตาม” พร้อมด้วยการวิเคราะห์จะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดเฉพาะบริการของ DocSend

2.3. ยกเว้นตามที่กำหนดไว้ในส่วนที่ 2.4 ของข้อกำหนดเฉพาะบริการของ Dropbox Business และ Dropbox Business Plus ด้านล่าง ฟังก์ชัน “ลายเซ็น” และ “Sign Standard Add-On” จะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดเฉพาะบริการของ Dropbox Sign

2.4. คุณสมบัติที่ตรวจสอบแล้ว; คุณสมบัติที่ยกเว้น Dropbox ได้ทำรายงานการตรวจสอบต่างๆ สำหรับคุณสมบัติที่ตรวจสอบแล้ว โดยลูกค้าสามารถขอสำเนารายงานการตรวจสอบได้ตามส่วนที่ 4.3 ของข้อตกลงการให้บริการ Dropbox สำหรับวัตถุประสงค์ของบริการเหล่านี้ “คุณสมบัติที่ยกเว้น” หมายถึง บริการหรือคุณสมบัติที่ระบุไว้ที่นี่ https://assets.dropbox.com/documents/en-us/legal/dfb-services-exceptions.pdf ซึ่ง Dropbox อาจอัปเดตรายการคุณสมบัตินี้เป็นครั้งคราว โดยมีเงื่อนไขว่าคุณสมบัติที่ไม่ใช่เบต้าที่รวมอยู่ในบริการ ณ วันที่มีผลบังคับใช้จะไม่ถูกเปลี่ยนไปยังรายการคุณสมบัติที่ยกเว้นในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลงนี้ คุณสมบัติที่ยกเว้นจะไม่รวมอยู่ในขอบเขตของการตรวจสอบและรายงานการตรวจสอบตามรายการด้านบน

Dropbox Standard, Advanced, Enterprise และ Education

1.  คำอธิบายบริการ บริการ Dropbox Standard, Advanced และ Enterprise เป็นบริการจัดเก็บ การซิงค์ และการแบ่งปันไฟล์ออนไลน์สำหรับทีมที่อนุญาตให้ผู้ใช้ของลูกค้าสามารถจัดเก็บ ซิงค์ และเข้าถึงไฟล์ในอุปกรณ์หลายเครื่องได้ ตลอดจนแบ่งปันไฟล์กับผู้อื่นด้วย ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการกิจกรรมในทีมและเข้าถึง เรียกเก็บค่าบริการ และการใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ ได้
2.  การรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบ
   1. แหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัย Dropbox จัดเตรียมแหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับบริการเหล่านี้ไว้ดังต่อไปนี้ (ก) เอกสารรายงานการรักษาความปลอดภัยของ Dropbox ซึ่งสามารถอ่านได้ที่  https://assets.dropbox.com/www/en-us/business/solutions/solutions/dfb_security_whitepaper.pdf และ (ข) ดูข้อมูลได้ที่ https://zss1.13896912.xyz/business/trust/compliance/certifications-compliance และ https://zss1.13896912.xyz/security/gdpr
   2. การตรวจสอบ Dropbox ได้จัดทำรายงานการตรวจสอบตามที่อธิบายไว้ที่นี่ สำหรับคุณสมบัติที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว โดยลูกค้าสามารถขอสำเนารายงานการตรวจสอบได้ตามส่วนที่ 4.3 ของข้อตกลงบริการ Dropbox
3.  ความเป็นส่วนตัว
   1. ผู้ประมวลผลย่อย Dropbox จะแสดงรายชื่อผู้ประมวลผลย่อยปัจจุบันสำหรับบริการเหล่านี้ที่ https://subprocessor.dropbox-legal.com/subprocessorlist.html
4.  โดเมนของลูกค้า ก่อนให้บริการ Dropbox อาจกำหนดให้ลูกค้ายืนยันว่าลูกค้าเป็นเจ้าของหรือควบคุมโดเมนลูกค้า หากลูกค้าไม่ได้เป็นเจ้าของหรือควบคุมโดเมนลูกค้า Dropbox จะไม่มีข้อผูกพันในการให้บริการแก่ลูกค้า
5. ทีมฟรี Dropbox อาจเสนอบริการในเวอร์ชันที่เป็นการสมัครสมาชิกรับสิทธิ์เข้าถึงฟรีแบบใช้งานได้จำกัดซึ่งไม่ใช่การทดลองใช้ให้แก่ทีมเป็นบางครั้ง (“ทีมฟรี”) โดยทีมฟรีอาจมีการจำหน่ายภายใต้ชื่อต่างๆ แม้จะมีข้อความอื่นๆ กล่าวไว้ตรงกันข้าม แต่เอกสารหรือแหล่งข้อมูลสำหรับบริการที่เกี่ยวกับการควบคุมของผู้ดูแลระบบ หรือ “แผงควบคุมของผู้ดูแลทีม” อาจไม่สามารถใช้ได้กับทีมฟรี
6.  คุณสมบัติที่ยกเว้น สำหรับวัตถุประสงค์ของบริการเหล่านี้ "คุณสมบัติที่ยกเว้น" หมายถึง บริการหรือคุณสมบัติที่ระบุไว้ที่นี่ https://assets.dropbox.com/documents/en-us/legal/dfb-services-exceptions.pdf ซึ่ง Dropbox อาจอัปเดตรายการคุณสมบัตินี้เป็นครั้งคราว โดยมีเงื่อนไขว่าคุณสมบัติที่ไม่ใช่เบต้าที่รวมอยู่ในบริการ ณ วันที่มีผล จะไม่ถูกเปลี่ยนไปยังรายการคุณสมบัติที่ยกเว้นในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลงนี้ คุณสมบัติที่ยกเว้นจะไม่รวมอยู่ในขอบเขตของการตรวจสอบและรายงานการตรวจสอบตามรายการด้านบน

Dropbox Dash

1. คำอธิบายบริการ Dash เป็นเครื่องมือในการเรียกคืนและจัดระเบียบข้อมูลที่เกี่ยวข้องซึ่งจัดเก็บและสร้างขึ้นจากบริการหรือเครื่องมือต่างๆ Dash ทำงานโดยการเชื่อมต่อและรวบรวมข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในบริการอื่นๆ และลดความซับซ้อนในการค้นหา เข้าถึง และใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่กระจายอยู่ตามเครื่องมือที่เชื่อมต่อ ข้อตกลงเหล่านี้ใช้เฉพาะกับการใช้งานและการนำ Dash ไปใช้ในองค์กรของคุณเท่านั้น การอ้างอิงถึงบริการทั้งหมดในส่วนนี้เป็นเพียงการอ้างอิงถึง Dash เท่านั้น 
2. การรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบ
   1. แหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัย Dropbox จัดเตรียมแหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับบริการเหล่านี้ รวมถึงเอกสารสรุปภาพรวมสถาปัตยกรรมด้านการรักษาความปลอดภัยของ Dash ที่https://trust.dropbox.com/
   2. การตรวจสอบ Dropbox ได้ดำเนินการตรวจสอบการควบคุมการทำงานองค์กรบริการ 2 (SOC 2) สำหรับ Dash เรียบร้อยแล้ว ลูกค้าสามารถขอสำเนารายงาน SOC 2 ได้ที่ https://trust.dropbox.com/ และเป็นไปตามส่วนที่ 4.3 ของ DSA
3. ความเป็นส่วนตัว 
   1. ผู้ประมวลผลย่อย Dropbox จะแสดงรายชื่อผู้ประมวลผลย่อยปัจจุบันสำหรับบริการเหล่านี้ที่ https://subprocessor.dropbox-legal.com/dash-subprocessorlist.html
4. คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
   1. ข้อจำกัดการใช้งาน Dropbox อาจจำเป็นต้องจำกัดหรือระงับการใช้งาน Dash ของคุณ เมื่อการระงับหรือข้อจำกัดดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายหรือความรับผิดต่อลูกค้า/บุคคลอื่นๆ หรือเพื่อรักษาความปลอดภัย ความเสถียร ความพร้อมใช้งาน หรือความสมบูรณ์ของบริการ 
   2. ผลลัพธ์ บริการอาจให้ผลลัพธ์สำหรับคำค้นหา คำตอบสำหรับคำถามที่ส่ง หรือข้อเสนอแนะอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องโดยอิงตามข้อมูลบริบทและข้อมูลลูกค้าที่มีให้ในบริการ (“ผลลัพธ์”) ระหว่าง Dropbox และลูกค้า ลูกค้าเป็นเจ้าของผลลัพธ์ ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการใช้ผลลัพธ์ของตนและผู้ใช้ปลายทาง เพื่อจุดประสงค์เดียวในการปรับปรุงและส่งมอบบริการ ลูกค้าอนุญาตให้ Dropbox ตรวจสอบผลลัพธ์ ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ลูกค้าระบุว่าผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง Dropbox อาจตรวจสอบผลลัพธ์นั้นเพื่อปรับปรุงการตอบสนองในอนาคต
   3. บริการเชื่อมต่อกับบุคคลที่สาม 
      1. บริการสามารถเชื่อมต่อกับบริการที่รองรับที่หลากหลายเพื่อรวบรวมและจัดระเบียบข้อมูล (“บริการที่เชื่อมต่อ”) ที่อธิบายไว้ในเนื้อหาเอกสารที่ Dropbox จัดเตรียมไว้ให้คุณหรือที่อธิบายไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อของคุณได้  ข้อมูลที่โหลดจากบริการที่เชื่อมต่อและจัดเก็บโดย Dash จะเป็นข้อมูลที่เก็บไว้ภายใต้ DSA 
      2. Dropbox จะไม่รับผิดชอบต่อประสิทธิภาพของบริการที่เชื่อมต่อ รวมถึงความสมบูรณ์หรือความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในบริการที่เชื่อมต่อ
      3. หากผู้ดูแลระบบเชื่อมต่อบริการที่เชื่อมต่อในนามของผู้ใช้ ลูกค้ารับรองและรับประกันว่ามีสิทธิ์ที่จำเป็นในการดำเนินการดังกล่าว ส่วนที่ 3.4(ข) ของ DSA ใช้กับประสิทธิภาพและการใช้บริการที่เชื่อมต่อ  ในส่วนของ Dropbox และลูกค้า ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบการใช้บริการที่เชื่อมต่อแต่เพียงผู้เดียว

Dropbox Sign Mobile, WebApp และ API

1.  คำอธิบายบริการ Dropbox Sign เป็นบริการลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถแสดง ส่งมอบ รับทราบ จัดเก็บ และลงนามในเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยลูกค้าสามารถใช้แอปพลิเคชันมือถือหรือเว็บของ Dropbox Sign ("UI ของ Dropbox Sign") หรืออินเตอร์เฟสการเขียนโปรแกรมประยุกต์ของ Dropbox Sign ("API ของ Dropbox Sign") ได้ API ของ Dropbox Sign ช่วยให้ลูกค้าสามารถผสานรวมหรือฝังโซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ของ Dropbox Sign ในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน เวิร์กโฟลว์ หรือทรัพย์สินอื่นๆ ("ทรัพย์สินของลูกค้า") ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ออนไลน์ที่สะอาดตา บ่งบอกตัวตน และลื่นไหลไร้รอยต่อ โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำข้อตกลงหรือธุรกรรมที่มีผลผูกพันตามกฎหมายภายในบริษัทและ/หรือกับลูกค้าของลูกค้าได้
2.  การรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบ
   1. แหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัย สามารถหาแหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับบริการเหล่านี้ได้ที่ https://www.hellosign.com/trust/security
   2. การตรวจสอบ Dropbox ได้จัดทำรายงานการตรวจสอบตามที่อธิบายไว้ที่นี่ สำหรับคุณสมบัติที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว โดยลูกค้าสามารถขอสำเนารายงานการตรวจสอบได้ตามส่วนที่ 4.3 ของข้อตกลงบริการ Dropbox
3.  ความเป็นส่วนตัว
   1. ผู้ประมวลผลย่อย Dropbox จะแสดงรายชื่อผู้ประมวลผลย่อยปัจจุบันสำหรับบริการเหล่านี้ที่ https://subprocessor.dropbox-legal.com/subprocessorlist.html
   2. ข้อผูกพันของลูกค้า ลูกค้าตกลงที่จะ (i) รักษานโยบายความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอตามกฎหมายในทรัพย์สินของลูกค้า และเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด (ii) รับสิทธิ์ การเผยแพร่ และความยินยอมที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้สามารถมีการรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลลูกค้าหรือข้อมูลอื่นๆ (รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ) ในลักษณะที่ข้อตกลงนี้พิจารณา และเพื่อให้สิทธิ์และสิทธิ์การใช้งานแก่ Dropbox ในข้อตกลงนี้
4.  ความรับผิดชอบเกี่ยวกับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้ารับทราบและตกลงว่า (i) ระหว่าง Dropbox กับลูกค้า ลูกค้ามีการควบคุมและความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวสำหรับเนื้อหาของข้อมูลลูกค้าทั้งหมด รวมถึงเอกสารใดๆ ที่ใช้กับบริการ (ii) เอกสาร ข้อตกลง หรือสัญญาบางประเภทอาจไม่รวมอยู่ในกฎหมายลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป (เช่น พินัยกรรม ทรัสต์ คำสั่งศาล หรือกฎหมายครอบครัว) หรืออาจมีข้อบังคับเฉพาะที่บังคับใช้ (iii) ลูกค้าต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการตรวจสอบว่าเอกสาร ข้อตกลง หรือสัญญาที่ใช้กับบริการนั้นเหมาะสมสำหรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และ Dropbox จะไม่รับผิดชอบหรือรับผิดต่อการกำหนดหรือการใช้ดังกล่าว และ (iv) กฎหมายหรือข้อบังคับว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคอาจกำหนดข้อกำหนดเฉพาะสำหรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมาย/ข้อบังคับดังกล่าวทั้งหมด และ Dropbox ไม่มีข้อผูกพันในการกำหนดหรือช่วยเหลือในการปฏิบัติตามข้อกำหนดใดๆ ในนั้น
5.  การพิสูจน์ตัวตนของ Dropbox Sign
   1. UI ของ Dropbox Sign หากลูกค้าใช้ UI ของ Dropbox Sign บุคคลที่ลงนามในเอกสารผ่านบริการจะต้องมีบัญชี Dropbox Sign หรือได้รับคำขอให้ลงนามในบัญชีอีเมลของตน
   2. Dropbox Sign API. ในกรณีที่ลูกค้าเลือกใช้ Dropbox Sign API เพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติที่ฝังอยู่ในทรัพย์สินของลูกค้า ลูกค้าจะต้องพิสูจน์ตัวตนของผู้ลงนาม/ผู้ใช้แต่ละรายผ่านการยืนยันทางอีเมลหรือวิธีการอื่นๆ ที่ Dropbox อาจอนุมัติตามดุลพินิจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบและรับผิดต่อการพิสูจน์ตัวตนดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว และจะชดใช้ค่าเสียหาย แก้ต่าง และยกเว้นความรับผิดให้ Dropbox จากข้อเรียกร้องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ตัวตนดังกล่าว หากลูกค้าใช้ API ของบริษัทอื่นหรือบริการอื่นๆ ที่อนุญาตให้ลูกค้าดำเนินการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้/ผู้เข้าร่วม/ผู้ลงนาม ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบและรับผิดต่อการพิสูจน์ตัวตนดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว
6.  บันทึกการตรวจสอบ เอกสารที่กรอกในบริการรวมถึงบันทึกการตรวจสอบที่มีข้อมูลที่ช่วยติดตามเอกสารของคุณตลอดวงจรชีวิต ข้อมูลนี้รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง ID เฉพาะของเอกสารที่สร้างโดยบริการ ที่อยู่อีเมลของผู้ส่งและผู้รับ เลขที่อยู่ไอพีของผู้ส่งและผู้รับ และการติดตามกิจกรรม (เช่น วันที่ เวลา และตำแหน่งที่ตั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์ ได้แก่ อัปโหลดเอกสารแล้ว ดูเอกสารแล้ว ลบเอกสารออกแล้ว ส่งเอกสารแล้ว ลงนามในเอกสารแล้ว ปฏิเสธที่จะลงนาม อัปเดตที่อยู่อีเมลของผู้ลงนามแล้ว ตรวจสอบรหัสการเข้าถึงของผู้ลงนามแล้ว ยกเลิกคำขอลายเซ็นแล้ว)
7.  ข้อตกลงเกี่ยวกับ Dropbox Sign API ข้อตกลงต่อไปนี้จะมีผลบังคับใช้กับการใช้ Dropbox Sign API
   1. คำขอลายเซ็น "คำขอลายเซ็น" คือ ธุรกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อลูกค้าเริ่มกระบวนการลายเซ็นใหม่และทำการเรียกที่สอดคล้องกันไปยัง API ของ Dropbox Sign ตัวอย่างเช่น หากคุณเรียก “signature_request/send” เพื่อส่งเอกสารเพื่อขอลายเซ็น จะถือเป็นคำขอลายเซ็นหนึ่ง (1) รายการ โปรดทราบว่า คำขอลายเซ็นเดียวสามารถใช้เพื่อรวบรวมลายเซ็นจากผู้ลงนามหลายรายในกรณีที่ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับสัญญาเดียวกัน
   2. คีย์ API เพื่อจะใช้ API ของ Dropbox Sign ลูกค้าต้องได้รับข้อมูลประจำตัวของ API ที่ไม่ซ้ำกันและ ("คีย์ API") ผ่านขั้นตอนการลงทะเบียน ลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคีย์ API ของตนแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่คำนึงว่าลูกค้าจะทราบเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม ลูกค้าต้องไม่แบ่งปันคีย์ API ของตนกับบุคคลที่สามใดๆ ต้องรักษาคีย์ API ดังกล่าวให้ปลอดภัย และจะใช้เป็นวิธีเดียวในการเข้าถึง API ของ Dropbox Sign
   3. ขีดจำกัด ลูกค้าที่มีการสมัครสมาชิกแบบชำระค่าบริการจะสามารถสร้างคำขอได้ถึง (ก) 100 คำขอต่อนาทีสำหรับคำขอ API มาตรฐาน (ข) 25 คำขอต่อนาทีสำหรับคำขอ API ระดับที่สูงขึ้น และ (ค) 10 คำขอต่อนาทีในโหมดทดสอบ โดยอยู่ภายใต้ขีดจำกัดเพิ่มเติมใดๆ ที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์มการสั่งซื้อหรือในหน้าคำอธิบายผลิตภัณฑ์ รวมทั้งหมดข้างต้นคือ "ขีดจำกัดการทำธุรกรรม" โปรดติดต่อฝ่ายขายของเราหากคุณต้องการเพิ่มขีดจำกัดการทำธุรกรรม Dropbox อาจจำเป็นต้องจำกัดหรือระงับการใช้ API ของ Dropbox Sign ของคุณ เมื่อการระงับหรือการจำกัดดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายหรือความรับผิดต่อลูกค้า/บุคคลอื่น หรือเพื่อรักษาความปลอดภัย ความเสถียร ความพร้อมใช้งาน หรือความสมบูรณ์ของบริการ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น Dropbox อาจจำกัดจำนวนคำขอ API สำหรับลูกค้าในระดับ “Basic” หรือระดับฟรีตามที่เห็นสมควร
   4. ทรัพย์สิน เฉพาะทรัพย์สินของลูกค้าที่ได้รับอนุมัติจาก Dropbox เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าถึงและใช้บริการได้ Dropbox ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธทรัพย์สินของลูกค้าไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตามดุลพินิจของ Dropbox แต่เพียงผู้เดียว รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามข้อตกลงและนโยบายความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของลูกค้ามีข้อตกลงการใช้บริการและนโยบายความเป็นส่วนตัวที่สอดคล้องกับข้อตกลงของข้อตกลงนี้
   5. ข้อจำกัด API คุณตกลงว่าคุณจะไม่ (และจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่สามใดๆ) ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม (ก) สร้างไคลเอนท์ API ที่ทำงานเหมือนกับ API ของ Dropbox Sign (ข) ใช้งาน API ของ Dropbox Sign เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ โดยปราศจากทรัพย์สินของลูกค้า (ค) บิดเบือนแหล่งที่มาหรือความเป็นเจ้าของของ API ของ Dropbox Sign หรือลบ ปิดบัง หรือแก้ไขลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า หรือประกาศสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ ปลอมแปลงหรือลบการแสดงที่มาของผู้เขียน ประกาศทางกฎหมาย หรือป้ายกำกับอื่นๆ ของต้นกำเนิดหรือแหล่งที่มาของ API ของ Dropbox Sign หรือ (ง) แทรกแซงหรือขัดขวาง API ของ Dropbox Sign หรือเซิร์ฟเวอร์หรือเครือข่ายที่ให้ API ของ Dropbox Sign หรือบริการ
   6. แอปพลิเคชันของลูกค้า ลูกค้าสามารถใช้ API ของ Dropbox Sign เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันและ/หรือประสบการณ์การเซ็นชื่อแบบฝังตัวสำหรับการใช้โดยลูกค้าหรือลูกค้าของลูกค้าและผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง (เรียกรวมกันว่า "แอปพลิเคชันของลูกค้า") ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบแอปพลิเคชันของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียว และจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า (ก) ได้ให้ข้อตกลงที่บังคับใช้แก่ลูกค้า ไคลเอนท์ และผู้ใช้ (รวมถึงข้อตกลงความเป็นส่วนตัว) ที่อนุญาตให้ Dropbox ให้บริการภายใต้ข้อตกลงนี้ และ (ข) มีอำนาจที่เหมาะสมและ/หรือการอนุญาตให้แบ่งปันข้อมูลผู้ใช้หรือผู้ลงนาม (รวมถึงข้อมูลที่ระบุตัวตนของบุคคลได้) กับ Dropbox
8. Dropbox Sign สำหรับ Salesforce ข้อตกลงต่อไปนี้จะมีผลบังคับใช้กับการใช้ Dropbox Sign สำหรับการผสานการทำงาน Salesforce ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการเหล่านี้ของคุณ
   1. คำอธิบาย “Dropbox Sign สำหรับ Salesforce” หมายถึงการผสานการทำงานระหว่างบริการกับ Salesforce ที่ช่วยให้คุณเตรียมเอกสารสำหรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็ว ลดการติดตามแบบเทียวไปเทียวมา และทำให้กระบวนการลงนามสำหรับลูกค้าของคุณง่ายขึ้นโดยใช้ข้อมูลจากฟิลด์ในบัญชี Salesforce ของคุณ
   2. พื้นที่จัดเก็บข้อมูล เมื่อใช้ Dropbox Sign สำหรับ Salesforce เอกสารที่ลงนามจะถูกจัดเก็บไว้ในบัญชี Salesforce ของลูกค้า
   3. คุณสมบัติ ลูกค้าต้องอยู่ในแผนบริการระดับ Enterprise ของ Dropbox Sign (หรือระดับที่สูงกว่า) เพื่อเข้าถึงการผสานการทำงานนี้ ลูกค้า (หรือผู้ดูแลระบบ) สามารถเพิ่มผู้ใช้ในการผสานการทำงาน Salesforce ภายในขีดจำกัดของแผนบริการสมัครสมาชิกของลูกค้าได้ Dropbox Sign สำหรับ Salesforce ทำงานร่วมกับทั้ง Salesforce Classic และ Salesforce Lightning Experience

Dropbox Forms และ Dropbox Forms API

1. คำอธิบายบริการ Dropbox Forms เป็นบริการระบบเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติอัจฉริยะที่ช่วยลดความยุ่งยากในการกรอกเอกสารผ่านการตรวจสอบข้อมูลขั้นสูง ตรรกะแบบมีเงื่อนไข ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในตัว และการออกแบบที่เน้นอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นอันดับแรก ลูกค้าสามารถใช้อินเตอร์เฟสแบบภาพของ Dropbox Forms (“UI ของ Dropbox Forms”) หรือ Dropbox Forms Application Programming Interface (“Dropbox Forms API”) API ของ Dropbox Forms จะช่วยให้ลูกค้าสามารถผสานการทำงานหรือฝังระบบเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติของ Dropbox Forms และโซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ลงในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน เวิร์กโฟลว์ หรือคุณสมบัติอื่นๆ (“ทรัพย์สินของลูกค้า”) ได้อย่างง่ายดาย สร้างประสบการณ์ออนไลน์ที่สะอาด มาพร้อมแบรนด์ และราบรื่นที่ช่วยให้ผู้ใช้บรรลุข้อตกลงหรือการทำธุรกรรมต่างๆ
2. การรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบ
   1. แหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัย สามารถหาแหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับบริการเหล่านี้ได้ที่ https://www.hellosign.com/trust/security
   2. การตรวจสอบ Dropbox ได้จัดทำรายงานการตรวจสอบตามที่อธิบายไว้ที่นี่ สำหรับคุณสมบัติที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว โดยลูกค้าสามารถขอสำเนารายงานการตรวจสอบได้ตามส่วนที่ 4.3 ของข้อตกลงบริการ Dropbox
3. ความเป็นส่วนตัว
   1. ผู้ประมวลผลย่อย Dropbox จะแสดงรายชื่อผู้ประมวลผลย่อยปัจจุบันสำหรับ Dropbox Forms ที่ https://subprocessor.dropbox-legal.com/subprocessorlist.html
   2. ข้อผูกพันของลูกค้า ลูกค้าตกลงที่จะ (i) รักษานโยบายความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอตามกฎหมายในทรัพย์สินของลูกค้า และเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด (ii) รับสิทธิ์ การเผยแพร่ และความยินยอมที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้สามารถมีการรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลลูกค้าหรือข้อมูลอื่นๆ (รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ) ในลักษณะที่ข้อตกลงนี้พิจารณา และเพื่อให้สิทธิ์และสิทธิ์การใช้งานแก่ Dropbox ในข้อตกลงนี้
4. ความรับผิดชอบเกี่ยวกับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้ารับทราบและตกลงว่า (i) ระหว่าง Dropbox กับลูกค้า ลูกค้ามีการควบคุมและความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวสำหรับเนื้อหาของข้อมูลลูกค้าทั้งหมด รวมถึงเอกสารใดๆ ที่ใช้กับบริการ (ii) เอกสาร ข้อตกลง หรือสัญญาบางประเภทอาจไม่รวมอยู่ในกฎหมายลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป (เช่น พินัยกรรม ทรัสต์ คำสั่งศาล หรือกฎหมายครอบครัว) หรืออาจมีข้อบังคับเฉพาะที่บังคับใช้ (iii) ลูกค้าต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการตรวจสอบว่าเอกสาร ข้อตกลง หรือสัญญาที่ใช้กับบริการนั้นเหมาะสมสำหรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และ Dropbox จะไม่รับผิดชอบหรือรับผิดต่อการกำหนดหรือการใช้ดังกล่าว และ (iv) กฎหมายหรือข้อบังคับว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคอาจกำหนดข้อกำหนดเฉพาะสำหรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมาย/ข้อบังคับดังกล่าวทั้งหมด และ Dropbox ไม่มีข้อผูกพันในการกำหนดหรือช่วยเหลือในการปฏิบัติตามข้อกำหนดใดๆ ในนั้น
5. บันทึกการตรวจสอบ เอกสารที่ลงนามโดยใช้บริการรวมถึงบันทึกการตรวจสอบที่มีข้อมูลที่ช่วยติดตามเอกสารของคุณตลอดวงจรชีวิต ข้อมูลนี้รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง ID เฉพาะของเอกสารที่สร้างโดยบริการ ที่อยู่อีเมลของผู้ส่งและผู้รับ เลขที่อยู่ไอพีของผู้ส่งและผู้รับ และการติดตามกิจกรรม (เช่น วันที่ เวลา และตำแหน่งที่ตั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์ ได้แก่ อัปโหลดเอกสารแล้ว ดูเอกสารแล้ว ลบเอกสารออกแล้ว ส่งเอกสารแล้ว ลงนามในเอกสารแล้ว ปฏิเสธที่จะลงนาม อัปเดตที่อยู่อีเมลของผู้ลงนามแล้ว ตรวจสอบรหัสการเข้าถึงของผู้ลงนามแล้ว ยกเลิกคำขอลายเซ็นแล้ว)
6. การพิสูจน์ตัวตนของ Dropbox Forms
   1. UI ของ Dropbox Forms หากลูกค้าใช้ UI ของ Dropbox Forms บุคคลที่ลงนามในเอกสารผ่านบริการจะต้องมีบัญชี Dropbox Sign หรือได้รับคำขอให้ลงนามในบัญชีอีเมลของตัวเอง
   2. API ของ Dropbox Forms หากลูกค้าเลือกที่จะใช้ API ของ Dropbox Forms เพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติแบบฝังในทรัพย์สินของลูกค้า ลูกค้าจะต้องพิสูจน์ตัวตนของผู้เข้าร่วม/ผู้ลงนาม/ผู้ใช้ปลายทางแต่ละรายผ่านการยืนยันทางอีเมลหรือวิธีอื่นที่ Dropbox อาจอนุมัติตามดุลยพินิจของ Dropbox แต่เพียงผู้เดียว ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบและรับผิดต่อการพิสูจน์ตัวตนดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว และจะชดใช้ค่าเสียหาย แก้ต่าง และยกเว้นความรับผิดให้ Dropbox จากข้อเรียกร้องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ตัวตนดังกล่าว หากลูกค้าใช้ API ของบริษัทอื่นหรือบริการอื่นๆ ที่อนุญาตให้ลูกค้าดำเนินการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้/ผู้เข้าร่วม/ผู้ลงนาม ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบและรับผิดต่อการพิสูจน์ตัวตนดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว
7. ขั้นตอนการทำงาน “ขั้นตอนการทำงาน” คืองานหรือกระบวนการต่างๆ ที่ใช้ร่วมกัน UI ของ Dropbox Forms จะช่วยให้ผู้ใช้สร้างชุดฟอร์มและเอกสารต่างๆ ที่ผู้รับจำเป็นต้องกรอก หลังจากเปิดใช้ขั้นตอนการทำงานแล้ว รายการนั้นจะกลายเป็นการทำธุรกรรม
8. การทำธุรกรรม
   1. UI ของ Dropbox Forms สำหรับ UI ของ Dropbox Forms "ธุรกรรม" จะเกิดขึ้นเมื่อลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทางเปิดใช้ Workflow จาก UI ของ Dropbox Forms
   2. API ของ Dropbox Forms สำหรับ API ของ Dropbox Forms "ธุรกรรม" คือการใช้ API เพื่อเริ่มต้น (ก) การรวบรวมและ/หรือการเผยแพร่ข้อมูล หรือ (ข) การขอลายเซ็น
   3. ขีดจำกัด ลูกค้าที่มีการสมัครสมาชิกแบบชำระค่าบริการจะสามารถทำธุรกรรมได้สูงสุด (ก) 500 รายการต่อชั่วโมง และ (ข) 50 รายการต่อชั่วโมงในโหมดทดสอบ โดยอยู่ภายใต้ขีดจำกัดเพิ่มเติมใดๆ ที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์มการสั่งซื้อหรือในหน้าคำอธิบายผลิตภัณฑ์ รวมทั้งหมดข้างต้นคือ “ขีดจำกัดการทำธุรกรรม” Dropbox อาจจำเป็นต้องจำกัดหรือระงับการใช้บริการของคุณ เมื่อการระงับหรือการจำกัดดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายหรือความรับผิดต่อลูกค้า/บุคคลอื่น หรือเพื่อรักษาความปลอดภัย ความเสถียร ความพร้อมใช้งาน หรือความสมบูรณ์ของบริการ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น Dropbox อาจจำกัดจำนวนการทำธุรกรรมสำหรับลูกค้าในระดับ “Basic” หรือระดับฟรีตามที่เห็นสมควร
9. ข้อตกลง API ของ Dropbox Forms ข้อตกลงต่อไปนี้จะมีผลบังคับใช้กับการใช้ API ของ Dropbox Forms
   1. คีย์ API เพื่อจะใช้ API ของ Dropbox Forms ลูกค้าต้องได้รับข้อมูลประจำตัวของ API ที่ไม่ซ้ำกันและ ("คีย์ API") ผ่านขั้นตอนการลงทะเบียน ลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคีย์ API ของตนแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่คำนึงว่าลูกค้าจะทราบเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม ลูกค้าต้องไม่แบ่งปันคีย์ API ของตนกับบุคคลที่สามใดๆ ต้องรักษาคีย์ API ดังกล่าวให้ปลอดภัย และจะใช้เป็นวิธีเดียวในการเข้าถึง API ของ Dropbox Forms
   2. ทรัพย์สิน เฉพาะทรัพย์สินของลูกค้าที่ได้รับอนุมัติจาก Dropbox เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าถึงและใช้บริการได้ Dropbox ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธทรัพย์สินของลูกค้าไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตามดุลพินิจของ Dropbox แต่เพียงผู้เดียว รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามข้อตกลงและนโยบายความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของลูกค้ามีข้อตกลงการใช้บริการและนโยบายความเป็นส่วนตัวที่สอดคล้องกับข้อตกลงของข้อตกลงนี้
   3. ข้อจำกัด API คุณตกลงว่าคุณจะไม่ (และจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่สามใดๆ) ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม (ก) สร้างไคลเอนท์ API ที่ทำงานเหมือนกับ API ของ Dropbox Forms (ข) ใช้งาน API ของ Dropbox Forms เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ โดยปราศจากทรัพย์สินของลูกค้า (ค) บิดเบือนแหล่งที่มาหรือความเป็นเจ้าของของ API ของ Dropbox Forms หรือลบ ปิดบัง หรือแก้ไขลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า หรือประกาศสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ ปลอมแปลงหรือลบการแสดงที่มาของผู้เขียน ประกาศทางกฎหมาย หรือป้ายกำกับอื่นๆ ของต้นกำเนิดหรือแหล่งที่มาของ API ของ Dropbox Forms หรือ (ง) แทรกแซงหรือขัดขวาง API ของ Dropbox Forms หรือเซิร์ฟเวอร์หรือเครือข่ายที่ให้ API ของ Dropbox Forms หรือบริการ
   4. แอปพลิเคชันของลูกค้า ลูกค้าสามารถใช้ API ของ Dropbox Forms เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันและ/หรือประสบการณ์การเซ็นชื่อแบบฝังตัวสำหรับการใช้โดยลูกค้าหรือลูกค้าของลูกค้าและผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง (เรียกรวมกันว่า "แอปพลิเคชันของลูกค้า") ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบแอปพลิเคชันของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียว และจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า (ก) ได้ให้ข้อตกลงที่บังคับใช้แก่ลูกค้า ไคลเอนท์ และผู้ใช้ (รวมถึงข้อตกลงความเป็นส่วนตัว) ที่อนุญาตให้ Dropbox ให้บริการภายใต้ข้อตกลงนี้ และ (ข) มีอำนาจที่เหมาะสมและ/หรือการอนุญาตให้แบ่งปันข้อมูลผู้ใช้หรือผู้ลงนาม (รวมถึงข้อมูลที่ระบุตัวตนของบุคคลได้) กับ Dropbox 

Dropbox Fax และ Dropbox Fax API

1. คำอธิบายบริการ Dropbox Fax เป็นบริการแฟกซ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถอัปโหลดและจัดการเอกสารออนไลน์ ส่งและรับแฟกซ์ออนไลน์ และลงนามแฟกซ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
2. การรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบ
   1. แหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัย สามารถหาแหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับบริการเหล่านี้ได้ที่ https://www.hellosign.com/trust/security
   2. การตรวจสอบ Dropbox ได้จัดทำรายงานการตรวจสอบตามที่อธิบายไว้ที่นี่ สำหรับคุณสมบัติที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว โดยลูกค้าสามารถขอสำเนารายงานการตรวจสอบได้ตามส่วนที่ 4.3 ของข้อตกลงบริการ Dropbox
3. ข้อมูลบัญชี ลูกค้าของบริการต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันแก่ Dropbox ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ชื่อ ที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บค่าบริการ ที่อยู่จริง ข้อมูลการชำระค่าบริการ (รวมถึงหมายเลขบัตรเครดิต) และหมายเลขประจำตัวประชาชน (หากมี) Dropbox อาจจำเป็นต้องขอสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้าหรือผู้ใช้ของลูกค้าหากกำหนดโดยกฎหมาย โดยการสืบสวน หรือโดยผู้รับจ้างช่วง/ผู้ให้บริการของเรา ลูกค้าจะให้ข้อมูลบัญชีใดๆ ที่เกี่ยวข้องในทันทีเมื่อมีการร้องขอโดย Dropbox และลูกค้าให้สิทธิ์อย่างชัดแจ้งแก่ Dropbox ในการแบ่งปันข้อมูลบัญชี ข้อมูลการใช้งาน ข้อมูลตำแหน่ง และที่อยู่ IP ใดๆ และทั้งหมดกับผู้รับจ้างช่วง/ผู้ให้บริการตามความจำเป็นในการให้บริการ Dropbox ขอสงวนสิทธิ์ในการระงับหรือยุติบัญชีของลูกค้าและ/หรือการใช้บริการ หากข้อมูลบัญชีดังกล่าวไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่ได้ให้ในทันทีที่มีการร้องขอ
4. แฟกซ์และสแปมที่ไม่พึงประสงค์
   1. ข้อห้าม การส่งโฆษณาทางแฟกซ์ที่ไม่พึงประสงค์ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกาภายใต้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคทางโทรศัพท์ของรัฐบาลกลางปี 1991 (TCPA) และในสหภาพยุโรปภายใต้กฎระเบียบความเป็นส่วนตัวและการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ปี 2003 และยังผิดกฎหมายภายใต้กฎหมายอื่นๆ ในอีกหลายประเทศ รัฐ และจังหวัด Dropbox ขอสงวนสิทธิ์ในการระงับหรือยุติการใช้บริการของลูกค้าทันที หากลูกค้าส่งแฟกซ์โฆษณาหรือสแปมที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ Dropbox ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบการใช้บริการของลูกค้า และ Dropbox อาจบล็อกหรือปฏิเสธที่จะส่งข้อความใดๆ ที่พิจารณาว่าเป็นโฆษณาทางแฟกซ์หรือสแปมที่ไม่พึงประสงค์ตามที่เห็นสมควรแต่เพียงผู้เดียว
   2. การร้องเรียน หากบุคคลที่สามเชื่อว่าได้รับโฆษณาทางแฟกซ์ที่ไม่พึงประสงค์จากลูกค้า Dropbox อาจแนะนำให้บุคคลที่สามผู้นั้นติดต่อลูกค้าโดยตรง ลูกค้าจะให้ความร่วมมือกับ Dropbox ในการตรวจสอบข้อร้องเรียนใดๆ เกี่ยวกับแฟกซ์และการหลอกลวงที่ไม่พึงประสงค์
5. หมายเลขและการย้ายหมายเลข
   1. ทั่วไป ลูกค้าอาจได้รับหมายเลขโทรศัพท์ใหม่จาก Dropbox เพื่อใช้กับ Dropbox Fax หมายเลขดังกล่าวขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการและ Dropbox ไม่รับประกันว่าจะสามารถกำหนดหมายเลขเฉพาะใดๆ ให้กับลูกค้าได้ Dropbox ยังรองรับการย้ายหมายเลข (สำหรับสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา) ตามเงื่อนไขด้านล่าง
   2. การย้ายหมายเลข ในการย้ายหมายเลขโทรศัพท์เข้าหรือออกจากบัญชี ลูกค้าจะต้องให้ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงและข้อมูลที่ละเอียดกับ Dropbox และ/หรือผู้ให้บริการรายอื่น และขั้นตอนที่กำหนดโดยผู้ให้บริการรายอื่นหรือ Dropbox เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานอุตสาหกรรม ลูกค้ารับทราบว่าการดำเนินการตามคำขอย้ายหมายเลขใดๆ อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของ Dropbox รวมถึงความล่าช้าที่เกิดจากลูกค้าและ/หรือผู้ให้บริการรายอื่น
   3. คำขอย้ายหมายเลขเข้า ในการย้ายหมายเลขแฟกซ์เข้า ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและขั้นตอนต่อไปนี้ 
      1. ลูกค้าต้องรักษาบริการที่มีอยู่กับผู้ให้บริการบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องไว้เพื่อย้ายหมายเลขโทรศัพท์ไปยังบริการ
      2. ลูกค้าต้องกรอกและส่งแบบฟอร์มคำขอย้ายหมายเลขตามที่ Dropbox จัดหาให้ไว้ เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ แสดงว่าลูกค้ารับทราบและตกลงว่าจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการย้ายหมายเลขแบบชำระครั้งเดียว ค่าธรรมเนียมจะถูกเรียกเก็บจากบัญชีของลูกค้าสําหรับบริการเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการย้าย
      3. Dropbox จะตรวจสอบแบบฟอร์มคำขอย้ายหมายเลขและตรวจสอบว่าสามารถย้ายหมายเลขที่ร้องขอได้หรือไม่ หากสามารถย้ายหมายเลขที่ขอได้ ลูกค้าจะต้องกรอกแบบฟอร์มหนังสืออนุญาตที่ได้รับจาก Dropbox ลูกค้าจะต้องส่งสำเนาล่าสุดของใบแจ้งหนี้จากผู้ให้บริการปัจจุบันของลูกค้าเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของหมายเลขที่ร้องขอ
      4. หลังจากได้รับหนังสือมอบอำนาจและสำเนาใบแจ้งหนี้ที่สมบูรณ์แล้ว Dropbox จะส่งคำขอย้ายหมายเลขไปยังบริการ
      5. ลูกค้าจะได้รับการกำหนดหมายเลขชั่วคราวโดยบริการจนกว่าหมายเลขที่ร้องขอจะถูกย้ายไปยังบริการ ลูกค้าอาจเลือกที่จะคงหมายเลขที่กำหนดไว้ล่วงหน้าไว้โดยมีค่าบริการรายเดือนเพิ่มเติม
      6. ค่าธรรมเนียมทั้งหมดขึ้นอยู่กับราคาปัจจุบันของ Dropbox สำหรับบริการ ซึ่งอาจมีการอัปเดตเป็นครั้งคราว
   4. กระบวนการย้ายหมายเลขออก ลูกค้าสามารถขอให้ย้ายหมายเลขแฟกซ์ที่กำหนดให้กับบัญชีของลูกค้าในบริการไปยังผู้ให้บริการรายอื่นในปัจจุบันได้ โดยทำตามคำแนะนำที่ระบุโดยผู้ให้บริการรายนั้น ลูกค้าต้องให้ข้อมูลและความร่วมมือทั้งหมดที่ร้องขอโดยผู้ให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง, Dropbox หรือบุคคลที่สามอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
   5. การย้ายหมายเลขออกโดยไม่ได้รับอนุญาต กฎหมายกำหนดให้ Dropbox ปฏิบัติตามการขอย้ายที่ถูกต้อง หมายเลขโทรศัพท์อาจถูกย้ายออกจากบัญชีเนื่องจากการกระทำหรือการละเว้นที่จะกระทำของบุคคลที่สาม และ Dropbox อาจกระทำการเหล่านี้ได้โดยยาก หรือไม่สามารถทำได้ในการ (i) ป้องกันการย้ายหมายเลขออกดังกล่าว (ii) ดึงข้อมูลหมายเลขที่ย้ายออกจากบัญชี หรือ (iii) โอนหมายเลขดังกล่าวกลับเข้าบัญชี Dropbox ไม่มีส่วนรับผิดชอบหรือความรับผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการย้ายหมายเลขออกดังกล่าว
   6. ข้อมูลการย้ายหมายเลขที่ถูกต้อง ลูกค้ารับรองและรับประกันว่าข้อมูลทั้งหมดที่ให้ที่เกี่ยวข้องกับคำขอใดๆ เพื่อย้ายหมายเลขเข้าหรือย้ายหมายเลขไปยังหรือจากบริการ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลหรือการรับรองใดๆ ในจดหมายของหน่วยงานใดๆ) โดยลูกค้าหรือฝ่ายใดก็ตามที่ดำเนินการในนามหรือคำสั่งของลูกค้า จะเป็นความจริง ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน
   7. การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการย้ายหมายเลขของลูกค้า การย้ายหมายเลขอยู่ภายใต้กฎหมายโทรคมนาคมและกฎหมายอื่นๆ และอาจอยู่ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบุคคลที่สาม ลูกค้าและ/หรือฝ่ายใดก็ตามที่ดำเนินการในนามของลูกค้าจะต้องไม่ (i) ฝ่าฝืนกฎหมายที่บังคับใช้ใดๆ หรือมีส่วนร่วมในพฤติกรรมฉ้อฉลหรือหลอกลวงใดๆ ในคำขอหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการย้ายหมายเลข (ii) มีส่วนร่วมหรืออำนวยความสะดวกในการ "Slamming" (กล่าวคือ การเปลี่ยนบริการโทรศัพท์ของผู้สมัครรับโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้สมัครรับ) หรือการย้ายหมายเลขแฟกซ์ใดๆ หรือเปลี่ยนหรือพยายามเปลี่ยนผู้ให้บริการโทรศัพท์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยไม่ได้รับความยินยอมและการอนุญาตที่จำเป็นก่อน หรือ (iii) ละเมิดสัญญาหรือข้อผูกพันอื่นๆ ต่อผู้ให้บริการหรือบุคคลที่สามอื่นๆ
   8. การยกเลิกหมายเลข ในกรณีที่มีการการบอกเลิกสัญญาหรือยกเลิกบัญชี หมายเลขทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบัญชีซึ่งไม่เคยถูกย้ายไปยังผู้ให้บริการรายอื่นมาก่อนอาจถูกยกเลิก การยกเลิกหมายเลขแต่ละรายการอาจส่งผลให้มีการยกเลิกหมายเลขที่เกี่ยวข้อง หากหมายเลขเหล่านั้นไม่เคยถูกย้ายไปยังผู้ให้บริการรายอื่นมาก่อน ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการบุคคลที่สามรายใหม่เพื่อย้ายหมายเลขใดๆ ออกก่อนที่จะยุติหรือยกเลิกบริการใดๆ หรือยกเลิกหมายเลขแต่ละรายการ
6. ข้อตกลง API ของ Dropbox Fax ข้อตกลงต่อไปนี้จะมีผลบังคับใช้กับ API ของ Dropbox Fax
   1. คีย์ API เพื่อจะใช้ API ของ Dropbox Fax ลูกค้าต้องได้รับข้อมูลประจำตัวของ API ที่ไม่ซ้ำกันและ ("คีย์ API") ผ่านขั้นตอนการลงทะเบียน ลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคีย์ API ของตนแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่คำนึงว่าลูกค้าจะทราบเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม ลูกค้าต้องไม่แบ่งปันคีย์ API ของตนกับบุคคลที่สามใดๆ ต้องรักษาคีย์ API ดังกล่าวให้ปลอดภัย และจะใช้เป็นวิธีเดียวในการเข้าถึง API ของ Dropbox Fax
   2. การพิสูจน์ตัวตน ในกรณีที่ลูกค้าเลือกใช้ API ของ Dropbox Fax เพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติแบบผสานการทำงานในทรัพย์สินของลูกค้า ลูกค้าจะต้องตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้/ผู้ส่งแต่ละรายผ่านการยืนยันทางอีเมลหรือวิธีอื่นๆ ที่ Dropbox อาจอนุมัติตามดุลยพินิจของ Dropbox แต่เพียงผู้เดียว ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบและรับผิดต่อการพิสูจน์ตัวตนดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว และจะชดใช้ค่าเสียหาย แก้ต่าง และยกเว้นความรับผิดให้ Dropbox จากข้อเรียกร้องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ตัวตนดังกล่าว หากลูกค้าใช้ API ของบริษัทอื่นหรือบริการอื่นๆ ที่อนุญาตให้ลูกค้าดำเนินการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้/ผู้ส่ง ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบและรับผิดต่อการพิสูจน์ตัวตนดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว
   3. ขีดจำกัด ลูกค้าที่มีการสมัครสมาชิกแบบชำระค่าบริการจะสามารถส่งคำขอแฟกซ์ที่รอดำเนินการได้สูงสุด 200 คำขอต่อวันผ่าน API ของ Dropbox Fax (“ขีดจำกัดการทำธุรกรรม”) โดยอยู่ภายใต้ขีดจำกัดเพิ่มเติมใดๆ ที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์มการสั่งซื้อหรือในหน้าคำอธิบายผลิตภัณฑ์ โปรดติดต่อฝ่ายขายของเราหากคุณต้องการเพิ่มขีดจำกัดการทำธุรกรรม Dropbox อาจจำเป็นต้องจำกัดหรือระงับการใช้ API ของ Dropbox Fax ของคุณ เมื่อการระงับหรือการจำกัดดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายหรือความรับผิดต่อลูกค้า/บุคคลอื่น หรือเพื่อรักษาความปลอดภัย ความเสถียร ความพร้อมใช้งาน หรือความสมบูรณ์ของบริการ Dropbox อาจจำกัดจำนวนคำขอแฟกซ์สำหรับลูกค้าในระดับ "Basic" หรือ "ฟรี" ตามดุลยพินิจของ Dropbox
   4. ทรัพย์สิน เฉพาะทรัพย์สินของลูกค้าที่ได้รับอนุมัติจาก Dropbox เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าถึงและใช้บริการได้ Dropbox ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธทรัพย์สินของลูกค้าไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตามดุลพินิจของ Dropbox แต่เพียงผู้เดียว รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามข้อตกลงและนโยบายความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของลูกค้ามีข้อตกลงการใช้บริการและนโยบายความเป็นส่วนตัวที่สอดคล้องกับข้อตกลงของข้อตกลงนี้
   5. ข้อจำกัด API คุณตกลงว่าคุณจะไม่ (และจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่สามใดๆ) ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม (ก) สร้างไคลเอนท์ API ที่ทำงานเหมือนกับ API ของ Dropbox Fax (ข) ใช้งาน API ของ Dropbox Fax เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ โดยปราศจากทรัพย์สินของลูกค้า (ค) บิดเบือนแหล่งที่มาหรือความเป็นเจ้าของของ API ของ Dropbox Fax หรือลบ ปิดบัง หรือแก้ไขลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า หรือประกาศสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ ปลอมแปลงหรือลบการแสดงที่มาของผู้เขียน ประกาศทางกฎหมาย หรือป้ายกำกับอื่นๆ ของต้นกำเนิดหรือแหล่งที่มาของ API ของ Dropbox Fax หรือ (ง) แทรกแซงหรือขัดขวาง API ของ Dropbox Fax หรือเซิร์ฟเวอร์หรือเครือข่ายที่ให้ API ของ Dropbox Fax หรือบริการ
   6. แอปพลิเคชันของลูกค้า ลูกค้าสามารถใช้ API ของ Dropbox Fax เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันและ/หรือประสบการณ์การเซ็นชื่อแบบฝังตัวสำหรับการใช้โดยลูกค้าหรือลูกค้าของลูกค้าและผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง (เรียกรวมกันว่า "แอปพลิเคชันของลูกค้า") ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบแอปพลิเคชันของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียว และจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า (ก) ได้ให้ข้อตกลงที่บังคับใช้แก่ลูกค้า ไคลเอนท์ และผู้ใช้ (รวมถึงข้อตกลงความเป็นส่วนตัว) ที่อนุญาตให้ Dropbox ให้บริการภายใต้ข้อตกลงนี้ และ (ข) มีอำนาจที่เหมาะสมและ/หรือการอนุญาตให้แบ่งปันข้อมูลผู้ใช้หรือผู้ลงนาม (รวมถึงข้อมูลที่ระบุตัวตนของบุคคลได้) กับ Dropbox

DocSend

1.  คำอธิบายบริการ DocSend คือ บริการด้านการสื่อสารและการแบ่งปันข้อมูลและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง (ก) เว็บไซต์ DocSend (ข) คุณสมบัติแบบโต้ตอบและคุณสมบัติการสื่อสารที่มีให้บริการผ่านทางเว็บไซต์ (ค) และบริการที่เกี่ยวข้องอื่นใดที่มีให้บริการตามที่อธิบายไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ
2.  การรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบ
   1. แหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัย สามารถหาแหล่งข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับบริการเหล่านี้ได้ที่ https://www.docsend.com/security/
   2. การตรวจสอบ Dropbox ได้จัดทำรายงานการตรวจสอบตามที่อธิบายไว้ที่นี่ สำหรับคุณสมบัติที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว โดยลูกค้าสามารถขอสำเนารายงานการตรวจสอบได้ตามส่วนที่ 4.3 ของข้อตกลงบริการ Dropbox
3.  ความเป็นส่วนตัว
   1. ผู้ประมวลผลย่อย Dropbox จะแสดงรายชื่อผู้ประมวลผลย่อยปัจจุบันสำหรับบริการที่ https://subprocessor.dropbox-legal.com/subprocessorlist.html
4. ข้อตกลงการเพิ่มจำนวนสิทธิ์ใช้งานของผู้ใช้เพิ่มเติมตามจริง ลูกค้ารับทราบและยอมรับว่า บริการอาจได้รับการกำหนดค่าเพื่ออนุญาตให้ลูกค้าเพิ่มสิทธิ์ใช้งานของผู้ใช้ปลายทางเพิ่มเติมในบัญชีของตนได้ นอกเหนือจากสิทธิ์ที่ซื้อในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ Dropbox จะคำนวณจำนวนสิทธิ์ใช้งานของผู้ใช้ปลายทางที่มีการใช้งานอยู่หรือผู้ใช้งานที่ถูกระงับในบัญชีของลูกค้าในแต่ละเดือน และหากจำนวนสิทธิ์ใช้งานของผู้ใช้ที่มีการใช้งานอยู่หรือที่ถูกระงับมีมากกว่าที่ซื้อไว้ในปัจจุบัน ลูกค้าจะถูกเรียกเก็บเงินสำหรับสิทธิ์การใช้งานสำหรับผู้ใช้ปลายทางเพิ่มเติม โดยคิดคำนวณตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อที่เกี่ยวข้องล่าสุดของลูกค้าจนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาบริการปัจจุบัน เว้นแต่จะตกลงกันเป็นอย่างอื่นเป็นลายลักษณ์อักษร สิทธิ์ใช้งานสำหรับผู้ใช้ปลายทางเพิ่มเติมใดๆ ที่ซื้อผ่านกระบวนการนี้ระหว่างระยะเวลาบริการจะมีระยะเวลาตามสัดส่วน และสิ้นสุดในวันสุดท้ายของระยะเวลาบริการที่มีอยู่เดิม และลูกค้ายินยอมที่จะชำระค่าสิทธิ์การใช้งานสำหรับผู้ใช้ปลายทางเพิ่มเติมเหล่านี้สำหรับระยะเวลาที่เหลือของระยะเวลาบริการตามรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกันที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อที่เกี่ยวข้องล่าสุด สิทธิ์การใช้งานเพิ่มเติมใดๆ ที่ซื้อตามวรรคนี้ไม่สามารถยกเลิกและไม่สามารถขอคืนเงินได้
5.  ข้อตกลงเพิ่มเติมสำหรับลายเซ็น DocSend "ลายเซ็น DocSend" หมายถึง คุณสมบัติของบริการที่อำนวยความสะดวกในการดำเนินการบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างคู่สัญญากับบันทึกเหล่านั้นโดยใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อลูกค้าใช้ลายเซ็น DocSend จะถือว่าลูกค้ายอมรับสิ่งต่อไปนี้
   1. คำนิยาม สำหรับวัตถุประสงค์ของข้อนี้ คำจำกัดความที่ใช้มีดังต่อไปนี้
      "อิเล็กทรอนิกส์" หมายถึง ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีขีดความสามารถทางด้านไฟฟ้า ดิจิทัล แม่เหล็ก ไร้สาย ออปติคัล แม่เหล็กไฟฟ้า หรือขีดความสามารถที่คล้ายคลึงกัน
      "บันทึกอิเล็กทรอนิกส์" หมายถึง สัญญาหรือบันทึกอื่นๆ ที่สร้าง จัดทำ ส่ง สื่อสาร รับ หรือจัดเก็บด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
      "ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์" หมายถึง เสียง สัญลักษณ์ หรือกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เรามีให้บริการและคุณนำมาดำเนินการหรือนำมาใช้เพื่อลงนามในบันทึกอิเล็กทรอนิกส์
   2. การยินยอม เมื่อลูกค้าใช้ลายเซ็น DocSend จะถือว่าลูกค้าตกลงที่จะทำธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์และลงนามในบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์
   3. ผู้มีอำนาจ หากลูกค้าใช้ลายเซ็น DocSend ในนามของธุรกิจ บริษัท หรือนิติบุคคลอื่น คุณรับรองว่าคุณมีอำนาจในการผูกพันธุรกิจหรือนิติบุคคลกับบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ที่คุณส่งหรือยอมรับผ่านลายเซ็น DocSend
   4. ความรับผิดชอบสำหรับบันทึกอิเล็กทรอนิกส์และลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้ามีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการควบคุมและรับผิดชอบเนื้อหา คุณภาพ และรูปแบบของบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ไม่มีสิ่งใดในข้อตกลงเหล่านี้ที่ทำให้ DocSend กลายเป็นคู่สัญญาในบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ที่ลงนามหรือแบ่งปันผ่านลายเซ็น DocSend ลูกค้าถูกผูกพันโดยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ที่ทำขึ้นในนามของลูกค้าผ่านลายเซ็น DocSend ลูกค้ารับทราบว่าการใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และบันทึกอิเล็กทรอนิกส์อยู่ภายใต้กฎหมายต่างประเทศ กฎหมายของรัฐบาลกลางและของรัฐ ตลอดจนกฎหมายของเขตอำนาจศาลอื่นๆ และตกลงว่าตนมีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวทั้งหมด
   5. ข้อกำหนดทางกฎหมาย ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในบันทึกอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทอาจไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย บังคับใช้ได้ หรือมีผลทางกฎหมาย (เช่น พินัยกรรมหรือข้อตกลงเกี่ยวกับกฎหมายครอบครัว) ลูกค้าตกลงว่าตนมีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาว่าบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ที่ลงนามผ่านลายเซ็น DocSend นั้นสมบูรณ์ตามกฎหมาย บังคับใช้ได้ หรือมีผลทางกฎหมายหรือไม่ และเราไม่มีหน้าที่รับผิดชอบดังกล่าว Dropbox ไม่รับรองหรือรับประกันว่าบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ที่ลงนามผ่าน DocSend นั้นสมบูรณ์ตามกฎหมาย บังคับใช้ได้ หรือมีผลทางกฎหมาย
   6. ไม่มีการทำธุรกรรมของผู้บริโภค ลายเซ็น DocSend ออกแบบมาสำหรับธุรกรรมทางธุรกิจ ไม่ใช่สำหรับธุรกรรมของผู้บริโภค กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคบางฉบับอาจกำหนดข้อกำหนดพิเศษสำหรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมของผู้บริโภค ธุรกรรมของผู้บริโภคโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการผ่านธุรกรรม ซึ่งใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัวของบุคคล ครอบครัว หรือครัวเรือนเป็นหลัก ข้อกำหนดเหล่านี้อาจรวมถึงการให้การเปิดเผยและสำเนาเอกสารของบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ ลายเซ็น DocSend ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดใดๆ เหล่านี้และข้อกำหนดทางกฎหมายอื่นๆ ลูกค้าไม่สามารถใช้ลายเซ็น DocSend กับธุรกรรมของผู้บริโภคได้
   7. การเก็บรักษาข้อมูล ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบกำหนดระยะเวลาที่จะต้องเก็บรักษาหรือจัดเก็บข้อมูลลูกค้าตามกฎหมายที่บังคับใช้ รวมถึงบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ที่ลูกค้าลงนามหรือแชร์ผ่านลายเซ็น DocSend บันทึกอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ จะต้องจัดเก็บโดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของลูกค้า และ Dropbox จะไม่รับผิดชอบในการจัดเก็บหรือค้นคืนข้อมูลบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ อย่างต่อเนื่อง หรือในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าบุคคลที่สามได้รับบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ที่ลูกค้าลงนามหรือแชร์ผ่านลายเซ็น DocSend